“ชัยวัฒน์”ไม่หวั่นอัยการฟ้องร่วมกันฆ่า“บิลลี่”-ลั่นทำจริงขอให้ตกนรก
“ชัยวัฒน์”ไม่หวั่นอัยการสั่งฟ้องร่วมกันฆ่า“บิลลี่” โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ยันเป็นผู้บริสุทธิ์ หากทำจริงขอให้ตกนรก พร้อมต่อสู้ในชั้นศาล
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวเนชั่นออนไลน์หลังอัยการสูงสุดสั่งฟ้อง ข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนต่อนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ “บิลลี่” ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ที่หายตัว ตั้งแต่ 17 เมษายน 2557 โดยยืนยันว่า ตนไม่ได้รู้สึกกังวลหรือหนักใจในคดีแต่อย่างใด มั่นใจว่าตนพร้อมพวกเป็นผู้บริสุทธิ์ คนที่ทำแบบนั้นได้ถือว่าชั่วช้าเลวทรามมาก
“หากทำจริงขอให้ตกนรก ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ได้รับเอกสารดังกล่าว พร้อมยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมสู้คดี โดยเชื่อว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมและเมตตาได้รับการประกันตัวในชั้นอัยการ เนื่องจากไม่มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด”
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องคดีดังกล่าวเป็นการสร้างเรื่องขึ้น ไม่มีหลักฐานว่าลงมือฆ่าจริง อีกทั้งมีการพิสูจน์แล้วว่ากระดูกไม่ใช่ของ “บิลลี่” พร้อมยอมรับว่าเป็นห่วงลูกน้องอีก 3 คน ไม่มีเงินต่อสู้คดี ถือว่าเป็นการรังแกคนที่ไม่มีทางสู้ เนื่องจากไม่มีใครทำผิด
ทั้งนี้ข้อหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ และพวกรวม 4 คน คือ 1. ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่ตามที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำไว้
2. ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจโดยให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง
3. ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย
4. ร่วมกันทุจริตหรืออำพรางคดี กระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะมำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป