“เท่าพิภพ” ส.ส.ก้าวไกล หนุนรัฐเปิด “ผับ-บาร์” ถึงตี 4 เยียวยาธุรกิจกลางคืน
“เท่าพิภพ” ส.ส.ก้าวไกล หนุน “ชัชชาติ” ชงถึงรัฐเปิด “ผับ-บาร์” ถึงตี 4 ช่วยเยียวยา “ธุรกิจกลางคืน” ยกงานวิจัยจากต่างประเทศ คนรีบดื่มรีบกลับเพราะเวลาน้อย ทำให้เมา-ขาดสติมากกว่า
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2565 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงข้อเสนอเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ในพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด มี ภูเก็ต กระบี่ พังงา พัทยา หัวหิน เกาะสมุย เชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่า การ “เปิดบาร์ถึงตีสี่” เพื่อฮีลธุรกิจกลางคืนของคนกรุงเทพของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้กรุงเทพฯ กลับมามีชีวิตชีวาขึ้น โดยธุรกิจกลางคืน พวกเขาต้องทนทุกข์อยู่กับความทรมานมานานร่วม 2-3 ปี และยังได้รับผลกระทบจากมาตรการอันเข้มงวดของภาครัฐเป็นกลุ่มแรก ๆ ตลอดมา
“คุณอาจจะมองถึงนักดื่ม แต่ผมมองถึงคนตัวเล็กๆ ที่สร้างรายได้หล่อเลี้ยงดูแลคนตัวเล็กๆ อีกมากมาย ตั้งแต่เจ้าของกิจการ พ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ นักดนตรี พนักงานรับรถ พนักงานทำความสะอาด ไปจนถึงครอบครัวของพนักงาน ยังยืนหยัดอยู่ได้และเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนที่เข้ามาใช้บริการเพื่อผ่อนคลายในวันที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับชีวิต พวกเขาไม่ได้ขออะไรมากไปกว่า โอกาสที่จะทำมาหากิน ฟื้นฟูเม็ดเงินในกระเป๋าที่เสียไประหว่างช่วงนรกโควิด” นายเท่าพิภพ ระบุ
นายเท่าพิภพ ระบุอีกว่า เหล่าคนบางกลุ่มหรือนักวิตกกังวลทั้งหลาย ต่างยกตัวอย่างถึงเรื่องเมาแล้วขับ ว่าช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ เป็นช่วงเวลาเท่านั้นบ้างเท่านี้บ้าง เพื่อเปรียบเทียบ และปัดป้องป้องกันอย่างสุดตัว ไม่ให้การ “เปิดบาร์ถึงตีสี่” ผ่านไปได้ ตนเข้าใจดี ในงานวิจัยต่างประเทศหลายฉบับเลือกชี้ไปตรงที่ว่า การรีบดื่มในเวลาที่กำหนด หรือ มีเวลาน้อยเกินไปสำหรับการดื่ม มีโอกาสทำให้เกิดอาการเมาหรือขาดสติมากกว่าการค่อยดื่ม ๆ เหล่าบาร์เทนเดอร์ในหลาย ๆ บาร์ในไทยต่างเข้าใจในจุดนี้ดี จึงมักไม่พยายามให้เหล่านั่งดื่มรีบกินรีบกลับ เพราะอาจเกิดอาการแอลกอฮอล์เป็นพิษ หรือการมีแอลกอฮอล์มากเกินไปก็ได้ โดยอาการรีบดื่มรีบไป เรามักจะเห็นได้เป็นประจำตอนไหน คำตอบคือ ตอนร้านใกล้ปิด
ต่อมาเรื่องการเดินทาง ตนและหลายๆ คนในวงการสุรา และคราฟท์เบียร์ ไม่มีใครเห็นด้วยกับการเมาแล้วขับ การขับรถมาดื่มเลย บางคนถึงขั้นมีแท็กซี่ประจำร้านเพื่อจะเรียกเวลามีลูกค้าหารถกลับไม่ได้ เชื่อเถอะไม่มีผู้ประกอบการคนไหนสนับสนุนการเมาแล้วขับ แต่หนึ่งในปัญหาเมาแล้วขับคืออะไร คำตอบคือ พอดีแถวบ้านไม่มีรถเมล์ นัดกับเพื่อนก็สองทุ่มแล้ว ตอนกลับหลังเที่ยงคืนแท็กซี่ก็หายาก รถไฟฟ้าก็ไม่มี รถเมล์ก็หมด จะให้ทำไง
นายเท่าพิภพ ระบุด้วยว่า หากกลับตอนตีสี่ เชื่อว่ามีหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้อาจลำบากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่นึกเร็ว ๆ ได้ทันทีคือ ถ้าหากคุณกลับตีสี่ คุณจะสามารถนั่งรถเมล์บางสายกลับบ้านได้ หรือรออีกหน่อยก็จะได้ขึ้นรถไฟฟ้าเที่ยวแรกได้แล้ว บางประเทศกว่าปิดร้านกันก็ร่วม หกโมงเช้า
“ผมจึงอยากลองมาถามเพื่อน ๆ ว่าคิดเห็นกับเรื่องเหล่านี้ยังไง ใครมีความคิดเห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ก็มาคุยกันใต้คอมเม้นต์นี้ได้นะครับ ผมรออ่าน ผมเชื่อว่าบางเรื่อง ในข้อเสียต้องมีข้อดี การเปิดบาร์ถึงตีสี่อาจทำให้ธุรกิจกลางคืนได้ฟื้นตัว แต่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นได้หรือไม่ คำถามเหล่านี้ควรเป็นสิ่งสังคมนี้ต้องมาถกเถียงกัน มันคุ้มที่จะทำไหม ? หรือปล่อยให้ธุรกิจกลางคืนตายไปอย่างช้า ๆ แบบนี้ต่อไป” นายเท่าพิภพ ระบุ