ชัตดาวน์ประยุทธ์! “จตุพร” ลั่นศึกนี้จบเร็ว จับตาร้อนรน จนทนอยู่ไม่ได้

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยอ้างประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี และการบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ที่ดำเนินมาตั้งแต่เช้าจากหลากหลายกลุ่มทั่ว กทม. 

ความเคลื่อนไหวสำคัญอยู่ที่ ลานคนเมือง ที่มี “คณะหลอมรวมประชาชน” ปักหลักอยู่ นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ “ทนายนกเขา” โดยในเวลา 18.00 น. นายจตุพร นำมวลชนลุกขึ้นยืนเคารพธงชาติ พร้อมระบุว่า คืนนี้ดึกกันหน่อย เที่ยงคืน เคาท์ดาวน์ส่ง พล.อ.ประยุทธ์ พาไปขึ้นเมรุ ณ ช่วงเวลานั้น กว่าจะค้างคืนกันได้ คงต้องซ้อมไว้ก่อน อยู่กันคืนนี้ถึงเที่ยงคืน จนร่างกายอยู่ตัวแล้ว เราค่อยมาประกาศค้างคืนกัน 

“วันนี้ขออยู่แค่เที่ยงคืนก่อน เพื่อจะส่งเสียงไปยังประยุทธ์ ว่า หลังจากเที่ยงคืนวันนี้ จะมีแต่นรก ไม่มีสวรรค์สำหรับประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกต่อไป” นายจตุพร กล่าว
 

นายจตุพร แถลงข่าวในช่วงเย็นตอนหนึ่งว่า ขณะนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ประยุทธ์ ไม่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในการดำรงตำแหน่งวันสุดท้ายตามรัฐธรรมนูญปี 2560 พวกตนต้องตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาสู่อำนาจด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญปี 2550 เมื่อ 22 พ.ค. 2557 และตั้งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นคณะสุดท้ายในการเขียนรัฐธรรมนูญ เรียกว่าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ในระหว่างการเขียนรัฐธรรมนูญของนายมีชัย ได้ออกมาพูดว่า มีเรื่อง “คนขอมา” เป็นจำนวนมาก 

นายจตุพร กล่าวอีกว่า เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ขณะนั้นได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ประชาชนผู้มีความเห็นต่าง ไม่สามารถแสดงออกใด ๆ ได้ จนกระทั่งการพิจารณาของ กรธ. ได้พิจารณาแล้วเสร็จ ความเป็นมาของมาตรา 158 และมาตรา 264 นั้น เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ขณะที่มีการพิจารณามาตรานี้ ประชาชนแทบไม่ได้ให้ความสนใจเลย ไม่มีใครออกไปสนับสนุน หรือคัดค้าน โดยมาตรา 264 เป็นเครื่องมือรับรองของการระบุวันนับว่า ครม.ที่ประกาศใช้ก่อนรัฐธรรมนูญนี้ ให้เป็น ครม.ตามรัฐธรรมนูญนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตั้งแต่คณะหลอมรวมประชาชนออกมาขับเคลื่อน บรรดาเนติบริกร ไม่ว่าจะเป็นรองนายกฯ นายวิษณุ เครืองาม หรือนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธาน กรธ. ไม่ได้แสดงความเห็นทั้ง 2 มาตราข้างต้น เพราะมาตรา 158 ที่ระบุว่า นายกฯจะดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีมิได้ ไม่ว่าจะเป็นติดต่อกันหรือไม่ ไม่รวมระยะเวลารักษาการ เรียนย้ำอีกครั้งว่า ถ้านายมีชัย และ กรธ.ต้องการให้มีผลวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ต้องเขียนในวรรคนี้ว่า ทั้งนี้ให้นับตั้งแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญเป็นต้นไป ก็จะหมดวาระปี 2568  ถ้าต้องการให้ใช้ในการเลือกตั้งครั้งแรก ก็จะหมดวาระปี ให้เขียนว่า ให้ใช้ในการเลือกตั้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ ก็จะหมดวาระปี 2570 แต่ไม่มีข้อความเป็นอย่างอื่น

“ผมบอกกับประยุทธ์ว่า ประชาชนเขาเจ็บใจ เพราะว่าถัดจากนี้ไปนั้น เรียนไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า คณะหลอมรวมประชาชน ไม่กดดันการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ บอกไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ไม่กดดัน แต่คณะหลอมรวมประชาชน กดดันตัวเอง และกดดันประชาชนว่า เราจะทนอยู่ในสภาพนี้อีกต่อไปหรือไม่ เพราะฉะนั้นการชุมนุมของคณะหลอมรวมประชาชน เราได้ใช้เหตุผลทางข้อกฎหมาย และเรียนย้ำไปว่า ฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจว่ากำลังต้ม พล.อ.ประยุทธ์ จะโชว์ว่าขนคนมาชนกันบ้าง จะระดมพลมาเผชิญหน้ากันบ้าง บอกเลยว่า คณะหลอมรวมประชาชนอยู่ลานคนเมือง แต่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ต้องจัดลานคนบ้าให้พวกนี้เช่นเดียวกัน เพราะไม่มีเหตุผลอะไรเลย เป็นเรื่องข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง ที่ผ่านมานั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญ ต่างกรรมต่างวาระหลายครั้ง แต่รอดทุกครั้ง โดยเฉพาะครั้งเรื่องการถวายสัตย์ฯไม่ครบ” นายจตุพร กล่าว

แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า ในวันนี้เราจะปักหลักอยู่ที่นี่จนถึงเวลา 24.00 น. จะนับถอยหลังเคาท์ดาวน์ปิดฉาก พล.อ.ประยุทธ์ เขาจะอยู่หรือไปไม่เป็นปัญหา เพราะถือว่าไม่มีสถานะเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีมาตราไหนให้การคุ้มครอง ไม่มีมาตราไหนบอกว่าให้นับปี 2562 หรือให้นับปี 2560 มีแต่ให้นับก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ นั่นหมายความว่าใครก็ตาม อดีตนายกฯทุกคน เป็นมาแล้วกี่ปี ถ้าจะมาเป็น ก็เป็นได้เท่ากับเวลารวมไม่เกิน 8 ปี และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ลงโทษนายสิระ เจนจาคะ ประเด็นขาดคุณสมบัติไปแล้ว ทั้งที่เหตุการณ์เกิดปี 2538 ดังนั้นทุกเรื่องมีข้อเท็จจริงปรากฏทั้งสิ้น 

“มีบางฝ่ายสร้างจินตนาการ ให้ใช้โทรทัศน์บางช่องว่าเราจะกดดันศาลรัฐธรรมนูญบ้าง ไม่มี หรือการล้มการประชุมเอเปค หรือปั่น เพราะเถียงข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายไม่ได้แม้แต่มาตราเดียว และปั่นกระแสว่าต้องการล้มประชุมเอเปค จะล้มทำไม เพราะใครมาเป็นนายกฯ คนนั้นก็ต้องทำหน้าที่จัดการประชุม เป็นเรื่องการจัดการของประเทศชาติ เพียงแต่ไม่สามารถหักล้างมาตรา 158 และมาตรา 264 ได้ ผมและทนายนกเขา พร้อมดีเบตกับฝ่ายรัฐบาลทุกคน ไม่ว่าสนามไหน เพราะเรื่องนี้ข้อเท็จจริงปรากฏ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า หลังจากเที่ยงคืนไป พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนนั่งอยู่บนเตาอั้งโล่ ความร้อนเกิดขึ้นทุกขณะ และแผดเผาไปจนถึงที่สุด จะรอดูว่า อยู่หลังเที่ยงคืนวันนี้ได้อีกกี่วัน ไม่ต้องนับเดือน นับเป็นวัน ๆ ไป วันนั้นจะปรากฏ เรายังยึดหลักแนวทางสันติวิธี ปฏิบัติตรงไปตรงมา มีอะไรจะประสานงานกับตำรวจ ประสานงานกับ กทม. เพื่อให้ทุกอย่างได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเราสู้กับความไม่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความถูกต้อง โดยสิ่งที่จะดำเนินการทั้งหมดหลังจากนี้ เชื่อว่าประชาชนจะเริ่มมากตามลำดับ หลังจากเที่ยงคืนวันนี้ไป และการชุมนุมจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เกิดทั่วระแหงใน กทม. และจะมากขึ้น เพราะความไม่สำนึก ความไม่รู้สึกรู้สาของ พล.อ.ประยุทธ์ นำพาให้ประเทศเกิดวิกฤติ นี่คือเส้นทางที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ยืนยันว่าคณะหลอมรวมประชาชน ยึดแนวทางสันติวิธีโดยเคร่งครัด

“เชื่อว่าสถานการณ์จะตึงเครียด หลังจากวันนี้ไปเพียงไม่กี่วัน ศึกนี้ไม่ยืดเยื้อ ศึกนี้จะจบเร็วที่สุด เป็นประวัติศาสตร์ทางการเมืองของไทย” นายจตุพร กล่าว

โดยในช่วงเย็นมีความเคลื่อนไหวของ 3 กลุ่ม ใน 3 พื้นที่ กทม. ได้แก่ 

1.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการชุมนุมของกลุ่มราษฎร กลุ่มโรนินฝั่งธน และแนวร่วม โดยนับตั้งแต่ 15.00 น. ที่ผ่านมา มวลชนเริ่มหนานแน่นขึ้น และมีการปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่างต่อเนื่อง ต่อมามีตัวแทนกลุ่ม “แดงก้าวหน้า” เข้ามาร่วมการสมทบในการชุมนุมครั้งนี้ พร้อมกับรถปราศรัยหาเสียง ติดโปสเตอร์รักนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไว้ข้างรถ

โดยกลุ่มแดงก้าวหน้าประกาศว่า หลังจากชุมนุมกับกลุ่มราษฎรและแนวร่วมเสร็จสิ้น จะเคลื่อนขบวนการจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปสมทบกับ “คณะหลอมรวมประชาชน” ที่มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ “ทนายนกเขา” เป็นแกนนำ ซึ่งปักหลักอยู่ที่ลานคนเมือง กทม. 

อย่างไรก็ดีกลุ่มราษฎร และแนวร่วมบางส่วน ยังคงยืนยันจะปักหลักชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยต่อไป

2.บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มมวลชนอิสระนัดชุมนุมกัน เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยกลุ่มนี้ไม่มีแกนนำที่ชัดเจน และมีการระบุว่า ในเวลา 17.00 น. จะจัดกิจกรรม “เดิน หยุด ขัง ยกเลิก 112 “ เคลื่อนขบวนการจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาล

3.ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มแรงงานประชาธิปไตย เดินทางมาขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีข้อเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งภายในวันที่ 24 ส.ค. 2565 เนื่องจากครบวาระ 8 ปีในการเป็นนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังทวงสัญญาค่าจ้างขั้นต่ำ 425 บาท ตามนโยบายหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ท่ามกลางการคุมกำลังอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ