ยกแผง "ตท.22" กระชับอำนาจ จุดเปลี่ยนขั้วอำนาจกองทัพ
จะอดีตหรือปัจจุบัน "กองทัพ" มีส่วนสำคัญในการพลิกสถานการณ์บ้านเมืองยามเกิดวิกฤติ ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังคุม กองทัพ ได้หรือใหม่ ท่ามกลางกระแสปลด “บิ๊กบี้” พ้น ผบ.ทบ.
รับตำแหน่ง “รักษาการนายกฯ” ได้เพียงวันเดียว “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ต้องเจอกับเรื่องร้อน ๆ ประเด็นจัดทำบัญชีปรับย้ายนายทหารประจำปี 2565 ที่กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายพอดิบพอดี ในจังหวะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเสียก่อน
ล่าสุด “บิ๊กป้อม” เรียกดู “โผทหาร”ของทุกเหล่าทัพ ก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารในสัปดาห์หน้า โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ รมว.กลาโหม เป็นประธาน และมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. และ พล.อ.นภาเดช ธูปเตมีย์ ผบ.ทอ. เข้าร่วมด้วย
แม้ปีนี้จะมีเก้าอี้ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทร.และ ผบ.ทอ.ที่ว่างลง แต่ “กองทัพบก” กลับเป็นเหล่าทัพ ที่กำลังมีประเด็นร้อนให้ต้องจับตา โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวเปลี่ยนตัว ผบ.ทบ.ที่กำลังร้อนฉ่าในแวดวงสีเขียว
พล.อ.ณรงค์พันธ์ กำลังถูกตั้งข้อหา ทำงานไม่ตอบสนอง พล.อ.ประยุทธ์ เว้นระยะห่าง จัดโผไม่เอาพี่เอาน้อง เอาแต่เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) หลังมีชื่อ พล.ท.ภูวนารท ชมพูบุตร รองเสนาธิการทหารบก (ตท.22) เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ.
และ "บิ๊กป๊อด" พลเอก สิทธิพร มุสิกะสิน (ตท.22)รองผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก
มาเป็น เสธ.ทบ. แทน “บิ๊กติ่ง” พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก (ตท.22) ที่จะเกษียณราชการ 30 ก.ย.2565 นี้
ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ต้องการให้เครือข่ายบูรพาพยัคฆ์ “บิ๊กโต” พล.ท. สุขสรรค์ หนองบัวล่าง (ตท.23)แม่ทัพภาคที่ 1 มาเป็น เสธ.ทหาร คุม กอ.รมน. ดูแลงานมวลชนและดับไฟใต้ จาก พล.อ.สันติพงศ์ น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์
และขยับน้องรักอีกคน “บิ๊กหนุ่ย” พล.ท.ธราพงษ์ มาละคำ (ตท.24) แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็น “มทภ.1”คุมกำลังปฏิวัติ ทำกลางกระแสข่าวเจอคู่แข่งสายวงเทวัญ “บิ๊กปู” พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) รอง มทภ.1 ที่เข้าฝึกหลักสูตรทหารรักษาพระองค์ ของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.) 9 พ.ค.2565 จนถูกจับตาว่า คือ “จุดเปลี่ยนขั้วอำนาจกองทัพ”
ที่สำคัญไปกว่านั้น ผบ.ทอ.และ ผบ.ทร.คนใหม่ ที่ปรากฎชื่อต่างเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.22 พล.อ.ณรงค์พันธ์ ทั้ง “บิ๊กต้น” พล.อ.อ.คงศักดิ์จันทรโสภา (ตท.22) ผบ.คปอ.(ผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ) และล่าสุดมีชื่อ “บิ๊กป้อม” พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ (ตท.22) รอง ผบ.ทอ. กำลังเบียดขึ้นมาสดๆ ร้อน
ส่วน กองทัพเรือ ชื่อมาแรง “บิ๊กจอร์ท” พล.ร.อ.เชิงชาย เชิงชมแพทย์ (ตท.22) ผู้ช่วย ผบ.ทร. ที่ถูก พล.ร.อ.สมประสงค์ ดึงมาจาก“กองทัพไทย” เมื่อการปรับย้ายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
เรียกได้ว่า หากเป็นไปตามรายชื่อที่ปรากฎในหน้าสื่อ “3 ผบ.เหล่าทัพ” ล้วนมาจาก ตท.22 ทั้งแผง
จึงพอสันนิษฐานได้ว่า น่าจะเป็นที่มาของความเคลื่อนไหวเปลี่ยนตัว “ผบ.ทบ.” เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ใช้บริการ พล.อ.สันติพงศ์ เป็นตัวกลางเชื่อมต่อไปยัง “กองทัพ” เพราะส่วนตัวไม่ได้สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เพราะรุ่นที่ห่างกันถึง 10 รุ่น (ตท. 12 กับ ตท. 22 )
จึงเป็นที่มาของคำถาม “พล.อ.ประยุทธ์” ยังสามารถคุมกองทัพได้อยู่หรือไม่ กับสถานการณ์การเมืองที่ผกผัน เอาแน่เอานอนไม่ได้ โดยเฉพาะการกระชับอำนาจของ ตท.รุ่น 22 ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด
ล่าสุด พล.อ.ณรงพันธ์ ได้กล่าวถึงข่าวเปลี่ยนตัว ผบ.ทบ. พร้อมทั้งชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญเป็นครั้งแรกว่า เรื่องเปลี่ยนตัว ผบ.ทบ.อย่าไปคาดการณ์ถึงข่าวลือต่างๆ อยากฝากนักข่าวให้คิดในสิ่งที่ดี ช่วยทำให้สังคมมองและคิดในสิ่งที่ดีๆ เพื่อนำพาประเทศชาติไปในทางที่ดี
"ผมขอยกตัวอย่าง เรื่องของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ ทุกคนควรชื่นชม และยกย่องท่าน ท่านปฏิบัติตามระบบของประชาธิปไตย ทั้งนิติศาสตร์ คือการตรวจสอบ มีเรื่องอะไรก็ร้องไปที่ตุลาการ และทางตุลาการก็สั่งมาที่ฝ่ายบริหาร ฝ่ายบริหารก็ปฏิบัติตามฝ่ายตุลาการ นี่คือระบบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ต้องยอมรับและชื่นชมว่า ท่านคือสุภาพบุรุษ ท่านคือผู้นำ ท่านคือแบบอย่างของชายชาติทหาร สุภาพบุรุษ ที่ว่าทางฝ่ายตุลาการปฏิบัติอย่างไร ก็ปฏิบัติตาม นี่คือสิ่งที่ดีๆ ที่สังคมของประเทศเรา ที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ปฏิบัติอย่างนี้ ไม่ใช่ว่า พอตุลาการพูดมา ก็ไปคิดแทน ไปคาดการณ์กันเอาเอง เหมือนฝ่ายอื่นๆ ซึ่งมันไม่ใช่ นี่คือสิ่งดีๆ"
โดยในตอนท้าย พล.อ.ณรงค์พันธ์ ปฏิเสธตอบคำถาม ถึงจุดยืนกองทัพ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากเก้าอี้นายกฯ ในอนาคตข้างหน้า
ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย พบว่า ในปี 2549 รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกรัฐประหารปี 2549 ในช่วงเกิดวิกฤติการชุมนุมทางการเมือง โดยเป็นการผนึกกำลังของ “ตท.รุ่น 6” นำโดย “บิ๊กบัง” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.
ไม่ต่างกับยุครุ่งเรืองของ แกนนำ “จปร.5” ภายใต้รหัส 0143 ประกอบด้วย นักเรียน จปร. นักเรียนนายเรือ นักเรียนนายเรืออากาศ อาทิ พล.อ.สุจินดา คราประยูร พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล พล.ร.อ.ประพัฒน์ กฤษณจันทร์ ล้วนเคยมีบทบาทสำคัญ ในเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย