ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เรื่อง “พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่” สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง
ตามที่ นายทะเบียนพรรคการเมืองโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2563 เรื่อง รับจดทะเบียนจัดตั้งพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น
พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ ต้องดำเนินการตามมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง
นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ไม่สามารถดำเนินการ ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงเป็นเหตุให้พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน
คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงประกาศให้พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่สิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองตามมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565
อิทธิพร บุญประคอง
ประธานกรรมการการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนเมษายน 2564 นายสิรวิทย์ ช่วงเสน หัวหน้าพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ และ จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ หัวหน้าพรรคพลังอนาคต เปิดแถลงข่าวควบรวมพรรค โดยจะใช้ชื่อ “พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่” พร้อมเตรียมตัวสู้ศึกเลือกตั้ง ชูจุดเด่นพรรครวมพลคนรุ่นใหม่ทุกสาขาอาชีพทุกชนชั้น เพื่อทำงานจิตสาธารณะ พัฒนาประเทศให้ก้าวล้ำทันยุค 4.0 นำเสนอนโยบายที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
โดย สิรวิทย์ ช่วงเสน รับตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมพลังคนรุ่นใหม่ ส่วน จักรพันธ์ ประจวบเหมาะ ดำรงตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งทั้งคู่ก็ได้กล่าวถึงการควบรวมพรรคครั้งนี้ว่า ทั้งสองพรรคมีอุดมการณ์เดียวกัน ก่อนจดจัดตั้งพรรค จึงมีการแยกกันจดจัดตั้ง โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าพรรคไหนได้รับอนุมัติจาก กกต. ก่อน เราจะใช้พรรคนั้นๆ ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในทันที พรรครวมพลังคนรุ่นใหม่เป็นพรรคที่จะรวมบุคลากรทุกสาขาอาชีพ ทุกสถานะ ทุกชนชั้น ทุกเพศทุกวัย เข้ามาร่วมทำงานด้วยจิตสาธารณะ โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการส่งคนรุ่นใหม่เข้าไปเปลี่ยนแปลงการเมืองที่ล้าหลังให้เท่าทันโลกยุค 4.0 พร้อมกับนำเสนอนโยบายดีที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับการเมืองไทย รับรองว่า ไม่เคยมีพรรคใดทำมาก่อน ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชน ที่มีรายได้ ตั้งแต่ระดับรากหญ้า ขั้นกลาง ไปจนถึงระดับบน เราจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขตทั่วประเทศ รวมถึงการเมืองท้องถิ่นในอนาคตด้วย