"ศึกขั้วรัฐบาล-ปรับครม." วัดใจ "รักษาการนายกฯป้อม"
เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือจาก “นายกฯประยุทธ์” มาเป็น “รักษาการนายกฯประวิตร” กลเกมการเมือง โดยเฉพาะการปรับครม. รวมถึงศึกภายในขั้วรัฐบาล หลังจากนี้ต้องจับตา!
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลานี้ “ถนนการเมือง” ทุกสายพุ่งตรง ไปที่ “คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ” ในกรณีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งมีการประเมินว่า น่าจะออกมาในเร็ววัน และเสมือนด่านวัดใจสำคัญของรัฐบาล ที่เวลานี้มี “รักษาการนายกรัฐมนตรี” ที่ชื่อ “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ด้วยกลเกมการเมืองที่เกิดขึ้น ทำให้ยามนี้มีการจับตาไปที่ บทบทหน้าที่การบริหารงานของ พล.อ.ประวิตร โดยเฉพาะล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นควรให้มีการแก้ไขสำนักนายกรัฐมนตรี ในประเด็นการทำหน้าที่รักษาการ ปลดล็อกจากเดิมที่ระบุให้ “การแต่งตั้งโยกย้ายหรือมีเรื่องงบประมาณ” รักษาการนายกฯ ต้องไปปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยตัดประโยคดังกล่าวออกไป เพื่อรักษาการนายกฯมีอำนาจเต็ม
เช่นนี้ จึงมีการจับตาไปที่โผโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งเวลานี้อยู่ในช่วงจัดทำบัญชีโยกย้ายสลับตำแหน่ง เพื่อทดแทนข้าราชการชุดเก่าที่จะเกษียณอายุราชการในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้
ยิ่งไปกว่านั้น ยามนี้ เมื่อเล็งไปที่อำนาจในมือของ “รักษาการนายกฯป้อม” โดยเฉพาะประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่เริ่มมีเสียงเร่งเร้าทั้งจากบรรดาส.ส.และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ล่าสุดเดินเข้าออกป่ารอยต่อขอเก้าอี้กันให้วุ่น
ไม่ต่างจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเก้าอี้ มท.2 ของ “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ที่เวลานี้ “ติดบ่วง” ในเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งต้องลุ้นในวันที่ 14 ก.ย. ว่าศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย เกี่ยวกับคุณสมบัติการดำรงจากตำแหน่งรัฐมนตรีจากกรณีที่กระทรวงมหาดไทย เคยมีคำสั่งย้อนหลังให้พ้นตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา อย่างไร
ทว่ากลเกมในค่าย ปชป.ยามนี้ ยังคงมี “คลื่นใต้น้ำ” จากส.ส.กลุ่มเดิมๆ ที่ยังคงเดินเกมกดดันไปยังแกนนำพรรค ส่งสัญญาณเร่งเร้าไปยัง “บิ๊กรัฐบาล” โดยเฉพาะ “รักษาการนายกฯป้อม” ให้มีการปรับ ครม.ในเร็ววันเพื่อเปิดทาง “เขย่าโควตา” หวังดัน “ส.ส.หน้าละอ่อน” ขึ้นแท่นเสนาบดีกระทรวงในช่วงปลายเทอมรัฐบาล
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้พยายามส่งสัญญาณเป็นระยะไปยัง “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นระยะ โดยเฉพาะล่าสุดคือ กรณีของ“จุติ ไกรฤกษ์” รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เกิดแรงกระเพื่อมอย่างหนักภายในพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อครั้งศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา
ทว่า ยามนั้น ปชป.ได้รับสัญญาณ “เซย์โน” จาก พล.อ.ประยุทธ์ เบอร์หนึ่งแห่งตึกไทยคู่ฟ้า ที่ยืนกราน “จะไม่มีการปรับ ครม.ตามข้อเรียกร้อง”
นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของโควตารัฐมนตรีของ “พรรคภูมิใจไทย” หลังศาลฎีกา มีคำสั่งให้ “ครูโอ๊ะ” กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการหยุดปฏิบัติหน้าที่หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีรุกป่า
แม้ท่าทีแกนนำภูมิใจไทย โดยเฉพาะ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ยามนี้ดูเหมือนว่า จะมุ่งเน้นไปการโปรยยาหอม-เจาะพื้นที่ พร้อมเปิดตัวผู้สมัครส.ส.เสียส่วนใหญ่ ไม่ได้ยี่หระกับเรื่องการปรับ ครม.ในช่วงปลายเทอมสักเท่าไรนัก
เห็นชัดจากท่าทีล่าสุด ที่ออกมาปฏิเสธ “ไร้สัญญาณ” หรือ “สายตรง” จากบิ๊กรัฐบาลในเรื่องการปรับครม.
แต่เมื่อตำแหน่งว่างลงในส่วนของเก้าอี้“เสมา 3” ที่ครูโอ๊ะเคยครอบครอง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเก้าอี้ที่ถูกจับตา
ฉะนั้น จึงต้องลุ้นกันว่า เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือจาก “นายกฯลุงตู่” มาเป็น “รักษาการนายกฯลุงป้อม” เจ้าตัวจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น ท่ามกลางกลเเกมการเมืองที่ขนาบรอบด้าน พล.อ.ประวิตร เวลานี้ ยังมี “ศึกภายในขั้วรัฐบาล” ที่ปรากฎภาพมวย “คู่เอ-คู่บี” มีการสาดวาทกรรมกันไปมา ทั้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “มุมน้ำเงิน” ภูมิใจไทย ที่เปิดวาทะ ตอกเสาเข็ม...ล้มเสาไฟฟ้า ผ่านเวทีการเปิดตัว “ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.” ในหลายเวทีที่ผ่านมา
หรือ“มุมฟ้า” ประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ “จุรินทร์” ที่ออกมาตอบโต้ “ขอทำการเมืองสร้างสรรค์...ไม่เคยระรานผู้อื่น”
ไม่เว้นแม้แต่มวยอีกคู่ ระหว่าง “พลังประชารัฐ” กับ “ประชาธิปัตย์” ที่ล่าสุด เกิดศึกเมืองคอน หลัง “สัณหพจน์ สุขศรีเมือง” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ไปอยู่ในความดูแลของพรรค
ก่อนที่ต่อมา จะมีการตอบโต้จากฝั่ง ปชป. โดยเฉพาะ “แทน” ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองเลขาธิการพรรค ที่ถึงขั้นฉะเดือดว่า การดำเนินการของ “สัณหพจน์” เป็นการด้อยค่าพรรคร่วมรัฐบาลที่หวังผลการเมือง ถึงขั้นที่อยากนำเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวออกจากรัฐบาล
ต่างๆ เหล่านี้ถือเป็น “เกมลองของ” วัดบารมี “รักษาการนายกฯ” ที่ลุงป้อมจะต้องเจอหลังจากนี้!!