“จุรินทร์” ให้กำลังใจ “นิพนธ์” ยันปรับครม.มีกระบวนการพรรค

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีเมื่อครั้งนายนิพนธ์ดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.สงขลาว่า ขอเป็นกำลังใจให้ท่านนิพนธ์ เพราะถือว่าท่านเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ที่ทุ่มเท ทำงานหนัก ทำงานดี และมีผลงานเป็นที่ยอมรับมาตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง 

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเบื้องต้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า คงต้องเริ่มจากการที่ตนต้องหารือกับท่านนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อน แม้ว่าท่านจะต้องพักการปฏิบัติราชการ แต่ก็ต้องถือว่าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และกระบวนการปรับ ครม. ก็คงจะต้องเป็นอำนาจของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากตนเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว จะได้ถือโอกาสหารือในเรื่องนี้ต่อไป

ส่วนในพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่มีปัญหาอะไร เพราะพรรคมีระบบระเบียบ มีขั้นตอนกระบวนการในการดำเนินการอยู่แล้ว สมมติว่านายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี หรือพร้อมที่จะปรับคณะรัฐมนตรี พรรคก็สามารถดำเนินการได้ไม่มีปัญหาอะไรเลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจะมีการปรับ ครม. ทางพรรคมีบุคคลที่จะมารับตำแหน่งเป็นสัดส่วนจากภาคใดนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคมีกติกาอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนทราบดี เป็นทั้งระเบียบ ข้อบังคับ และวิธีปฏิบัติที่ทุกคนทราบแล้ว ตนไม่จำเป็นต้องพูดลงไปในรายละเอียด 

“ในพรรคไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ เมื่อถึงเวลาถ้าสมมติว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรก็ดำเนินการได้” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความกังวลหรือไม่ว่าจะมีการช่วงชิงตำแหน่งรัฐมนตรีกันภายในพรรค หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า นั่นคือวิถีประชาธิปไตย ที่ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งไปชี้ เพราะว่าประชาธิปัตย์ก็มีวิถีประชาธิปไตยประชาธิปัตย์ที่มีความชัดเจน ตรงนี้คือประชาธิปไตยที่เราเรียกร้องกัน เรียกร้องประชาธิปไตยให้ประเทศ ในพรรคก็ต้องเป็นประชาธิปไตยก่อน เพราะถ้าในพรรคการเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย แล้วไปเรียกร้องความประชาธิปไตยให้ประเทศ มันก็หัวมงกุฎ ท้ายมังกร สำหรับประชาธิปัตย์ เรามีระบบ ระเบียบ ไม่ต้องห่วง และสุดท้ายก็มีข้อยุติ