ศาลตีวงเงิน 1 แสนให้ประกัน “นิพนธ์” สู้คดีไม่เบิกจ่ายค่ารถ นัดใหม่ 20 ต.ค.
ศาลอาญาคดีทุจริตฯกลาง ประทับรับฟ้อง “นิพนธ์” คดีละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทาง 50 ล้านบาท อนุญาตประกันตัว หลักทรัพย์ 1 แสนบาท นัดพิจารณาอีกครั้ง 20 ต.ค. รอ “จำเลย” ตรวจสอบเอกสารสู้คดี
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2565 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤตมิชอบกลาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องคดีกล่าวหา นาย นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นจำเลย กรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ 2 คัน วงเงิน 50 ล้านบาท แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เมื่อครั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา ทั้งนี้ ป.ป.ช. ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฯ เพื่อขอให้มีคำสั่งให้นายนิพนธ์ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างการพิจารณาคดีด้วย
นายนิพนธ์ เดินทางมาพร้อม นาย วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจ เบื้องต้นนายนิพนธ์ ระบุว่า ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไปแล้ว
โดยศาลพิเคราะห์คำฟ้องโจทก์และคำคัดค้านการฟ้องคดีของจำเลยแล้วเห็นว่า แม้ว่าคดีนี้เกิดขึ้นนอกเขตของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และพยานหลักฐานส่วนใหญ่จะอยู่ที่จังหวัดสงขลา แต่ก็เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และการติดต่อระหว่างศาลกับคู่ความหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีอาจกระทำโดยทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อสารทางเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่นได้ การสืบพยานก็สามารถดำเนินการโดยการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีการดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ข้อ 6-7 ได้อยู่แล้ว
อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 5 วรรคสอง จึงให้ประทับรับฟ้องโจทก์เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.167/2565 และหมายขังจำเลย เว้นแต่มีประกันจำเลย
ศาลสอบจำเลยแล้วแถลงยืนยันว่า ลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย แล้วตามเอกสารท้ายคำร้องจริง ในชั้นนี้จึงไม่พิจารณาสั่งให้จำเลยหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องของโจทก์
ศาลสอบจำเลยแล้วแถลงว่า ประสงค์ต่อสู้คดีโดยจะทำคำให้การปฏิเสธ พร้อมรายละเอียดในนัดหน้าให้กำหนดวันนัดพร้อมเพื่อกำหนดวันนัดพิจารณา ในวันที่ 20 ต.ค. 2565 เวลา 09.30 น. โดยเหตุที่นัดนาน เนื่องจากจำเลยต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบเอกสาร เพื่อที่จะได้แถลงให้ชัดเจนในข้อเท็จจริงว่า มีข้อเท็จจริงอะไรบ้างที่จะพอรับตามพยานหลักฐานโจทก์ และข้อเท็จจริงใดบ้างที่จะนำสืบต่อสู้คดี เพื่อไม่ให้การพิจารณาคดีซ้ำซ้อน
เนื่องจากคดีนี้โจทก์มิได้ทำสำเนาเอกสารประกอบการชี้ช่องนำสืบมาให้ฝ่ายจำเลยเพื่อที่จะได้ศึกษารายละเอียดในการต่อสู้คดี จึงให้โจทก์จัดทำสำเนาเอกสารประการนำสืบมาส่งศาลภายในกำหนด 7 วัน และให้ฝ่ายจำเลยมารับเพื่อไปศึกษาในการต่อสู้คดี
ภายหลังศาลพิจารณาแล้วเสร็จ นายวสันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ศาลรับฟ้องแล้ว และอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดีวงเงิน 100,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขอะไร
ส่วนนายนิพนธ์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีปัญหาอะไร ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่แรก และหลังจากนี้ก็จะเป็นการสู้คดีในศาล ซึ่งจะต้องมีการนำพยานหลักฐานมาสู้กัน
เมื่อถามว่าหากระหว่างที่ศาลกำลังดำเนินคดี เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้งจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา สามารถใช้สิทธิ์ทางการเมืองได้ เพราะศาลยังไม่มีคำพิพากษาอะไร รวมถึงยังไม่มีข้อหา และไม่มีข้อห้ามใด ๆ ในการดำเนินงานด้านการเมือง ยืนยันว่ายังมีคุณสมบัติของการสมัครเป็น ส.ส.ครบถ้วน และไม่เคยที่จะใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. สู้ในชั้นศาล