“วิษณุ” เผย ความเห็น “มีชัย” ไม่มีผลต่อคำตัดสิน 8ปีนายกฯ ชี้บันทึกมีจุดอ่อน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่เอกสารคำชี้แจงนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และบันทึกรายงานการประชุมครั้งที่ 501/61 ซึ่งเป็นรายงานการประชุมที่ไม่ได้รับการรับรอง อีกทั้งยังไม่สมบูรณ์ และเป็นการประชุมหลังมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญนั้น ว่า ตนได้อ่านเอกสารที่อ้างว่าเป็นคำชี้แจงของนายมีชัยแล้ว แต่เอกสารหักล้างฉบับที่ 501/61 ตนยังไม่เห็น ซึ่งศาลจะต้องหยิบเอกสารทั้งหมดมาประกอบการพิจารณา และเมื่อมีการอ้างการประชุมครั้งที่ 501/61 ทีมกฎหมายก็ต้องมีการหักล้างและอธิบายไปในคำให้การหมดแล้ว ซึ่งศาลก็สามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้ไม่มีปัญหา 

ส่วนคำชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงว่านับการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปีไหน นายวิษณุ ระบุว่าไม่ใช่ 24 ส.ค.57 แน่นอน ส่วนจะเป็นวันใดก็แล้วแต่ศาล โดยคำชี้แจงจะต้องบอกเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ใช่วันนั้น แต่ไม่สามารถบอกเหตุผลได้ว่าจะเป็นวันไหน จะไปยึดปี 62 หาอะไร เพราะปี 62 ก็ต้องหมดปี 70 หรือหากนับจากปี 60 ก็ต้องไปถึงปี 68 แต่มันจะไปยืดทำไมแบบนั้นเพราะถึงวันที่ 23 มี.ค.66 ก็ไปกันหมดแล้วส่วนถ้าจะยื่นได้ก็เป็นเรื่องของพล.อ.ประยุทธ์

ส่วนวันที่ 8 ก.ย.นี้จะวินิจฉัยได้เลยใช่หรือไม่เนื่องจากมีข้อมูลใหม่ นายวิษณุ ระบุว่า ตนไม่ทราบตอบไม่ถูก รู้แต่ว่าศาลนัดประชุมถ้าหากจบศาลก็อาจจะกำหนดวันอ่านคำพิพากษา หรือกำหนดให้หาข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้ ไม่มีปัญหา 

เมื่อถามย้ำว่าคำชี้แจงของผู้ร่างที่บอกให้นับตั้งแต่ปี 60 นายวิษณุ ระบุว่า ให้รอคำวิจฉัยของศาลก็จะรู้เอง เพราะจะหยิบทุกอย่างมาพิจารณาหมด ส่วนเอกสารดังกล่าวตนไม่ทราบว่าหลุดมาหรือไม่ได้หลุด และคิดว่าไม่ส่งผลต่อคำวินิจฉัย เนื่องจากไม่ใช่ความลับอะไร เพราะเมื่อยื่นต่อศาลเอกสารก็จะอยู่ในมือมากกว่าคณะตุลาการ 9 คน ซึ่งไม่มีปัญหาเพียงแต่ไม่ควรเปิดเผยออกมา พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้คุย ไม่ได้พบกับนายมีชัยมา 10 กว่าวันแล้ว เช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้พบ เห็นเฉพาะในวีดีโอคอล

สำหรับ คำชี้แจงของนายมีชัยและเอกสารของสภาหากเป็นของจริงแบบไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ทั้ง 500 501 502 503 ไม่มีน้ำหนัก พร้อมถามกลับสื่อว่าทำไมมีนำ้หนัก สื่อได้ตอบกลับว่า เพราะนายมีชัยเป็นอดีตประธานนายวิษณุ ได้ส่ายหน้าก่อนระบุว่า แล้วอีกหน่อยสื่อก็จะรู้ ก่อนระบุว่า เอกสารดังกล่าวเป็นรายงานการประชุมที่เกิดขึ้นหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ไปแล้ว เมื่อปี 60 แต่การประชุมดังกล่าวมาทำหนังสือปี 61  ซึ่งนี่เป็นจุดอ่อนข้อที่หนึ่ง จุดอ่อนข้อที่สองก็เป็นเพียงแค่ 2-3 คนพูดกัน ส่วนองค์ประชุมที่เหลือ 17 คนก็นั่งอยู่ไม่ได้ลงมติ และนายมีชัยได้ออกมาชี้แจงแล้ว ประกอบกับคนจดยอมรับว่าจดเนื้อหาไม่ครบและข้อสำคัญคือการที่มานั่งประชุมกันทำหนังสือเพื่อเป็นคำอธิบายรายมาตราและพอถึงมาตรา158 เรื่องวาระ 4 ปีก็ไม่มีคำอธิบายที่พูดเรื่องการนับย้อนอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องยึดบทสรุปของหนังสือดังกล่าวเป็นหลัก จะพูดกันในที่ประชุมอย่างไรก็ช่างแต่ต้องดูเจตนาผลสรุปของหนังสือเพื่อเป็นคู่มือในการตีความรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามย้ำว่า ฉะนั้นศาลต้องให้น้ำหนักที่ตัวรัฐธรรมนูญและจุดมุ่งหมายหนังสือคู่มือในการตีความรัฐธรรมนูญใช่หรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ความคิดตนเป็นแบบนั้น ซึ่งมากกว่าความเห็นของนายมีชัยภายหลัง แต่ทั้งนั้นศาลก็อาจจะนำมายึดได้แล้วแต่คณะตุลาการทั้ง 9 คน แต่ขอให้รอฟังคำวินิจฉัยศาล