ปิดสวิตซ์ส.ว.เดือด! "เสรี" เย้ยก้าวไกลผลพวงพรรคถูกยุบ- "พรรคส้ม" ท้าลาออก
รัฐสภาถก "ปิดสวิตซ์ส.ว." 2ฝั่งโต้เดือด "ส.ว.เสรี" ยันมาตามรัฐธรรมนูญ60 เย้ยก้าวไกลผลพวงพรรคถูกยุบ ด้าน"ก้าวไกล" ประท้วงวุ่นจี้ถอนคำพูด-ท้าลงเลือกตั้งแข่ง
การประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … เป็นวันที่สอง ช่วงหนึ่งนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า ตนไม่เห็นด้วยทั้ง 4 ร่าง ส่วนเพื่อนส.ว.หลายท่าน ก็มีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย แสดงให้เห็นว่าส.ว.มีความเป็นอิสระ มีความคิดของตัวเอง ไม่ได้ถูกครอบงำสั่งการ หรือไม่ได้มาชดใช้หนี้ใครอย่างที่ถูกกล่าวหา ตนอดทนฟังสิ่งที่สมาชิกที่บอกเป็นผู้ทรงเกียรติ ได้เสนอความเห็นในทำนองด่าทอใส่ร้ายป้ายสีส.ว.ทั้งวัน และจะไม่เอามาเป็นสาระต่อการตัดสินใจลงมติ
ทั้งนี้ การเสนอแก้ไขโดยไม่ให้สิทธิส.ว.เลือกนายกฯ ท่านให้เหตุผลว่าส.ว.ชุดปัจจุบัน ไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีความเหมาะสมที่จะทำหน้าที่เลือกนายกฯได้ เพราะไม่ได้ผูกพันหรือไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทั้งที่จริงแล้วส.ว.ปัจจุบันมาตามรัฐธรรมนูญ 60 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เลือกมา นี่คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ ตนเป็นคนหนึ่งที่มาจากการเลือกของคสช. แต่ส่วนตัวก็เคยผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนในปี 40 มาแล้วเช่นกัน แต่ในเมื่อรัฐธรรมนูญ 60 ที่ผ่านการทำประชามติจากประชาชน 19 ล้านเสียง กำหนดแบบนี้เราก็มาแบบนี้
“ส.ว.ชุดปัจจุบันถูกกล่าวหาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ว่าไม่ได้มาจากประชาชน ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ถูกกล่าวหาตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ แต่ส.ส.ที่อภิปรายแบบนี้ ซึ่งอยู่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ทั้งสองพรรคนี้มีคนที่มีคุณสมบัติที่เป็นส.ส.ที่ดีจำนวนมาก แต่คงมีบางคนที่บอกว่าเป็นตัวแทนพรรคมาอภิปรายกล่าวหาส.ว. ว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ที่พูดก็มาจากพรรคก้าวไกล” นายเสรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปรายของนายเสรี มีการพูดถึงพรรคก้าวไกลหลายครั้ง
ทำให้ส.ส.พรรคก้าวไกล อาทิ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใช้สิทธิพาดพิงว่านายเสรี กำลังพูดพาดพิงพรรคก้าวไกลว่าอภิปรายใส่ร้ายส.ว. จึงขออย่ามาก้าวล่วงพรรค และขอให้ถอนคำพูด เพราะการเอ่ยชื่อพรรคแบบนี้ทำให้พรรคเสียหาย
ซึ่งนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พยายามควบคุมการประชุมให้เรียบร้อย
โดยระบุว่า นายเสรีไม่ได้พูดจาหยาบคาย ก้าวร้าว แต่ขอให้พูดอยู่ในประเด็น
จากนั้น นายเสรี กล่าวตอบโต้ส.ส.พรรคก้าวไกลว่า ตนไม่ได้ใส่ร้ายพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้ท่านเสียหายอะไรเลย เมื่อวาน (6 ก.ย.) ท่านเอ่ยถึงส.ว.ทั้งวัน พอเราพูดถึงพรรคก้าวไกลบ้างท่านกลับประท้วง
"ท่านเสนอแก้มาตรา 272 โดยให้เหตุผลว่าส.ว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทั้งที่ในอดีตท่านมาจากพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งโดนอุบัติเหตุทางการเมืองกระทั่งถูกยุบพรรค จริงๆเมื่อถูกยุบไป สมาชิกในพรรคนั้นต้องพ้นจากความเป็นส.ส. แต่ด้วยอานุภาพของรัฐธรรมนูญ 60 บัญญัติว่าให้พรรคการเมืองที่ถูกยุบสามารถหาพรรคอื่นได้ภายใน 60 วัน พวกท่านจึงมาอยู่พรรคปัจจุบัน"
อยากถามว่าพรรคก้าวไกลเคยได้มาสักคะแนนเสียงจากประชาชนหรือไม่ ซึ่งก็ไม่เคย เพราะท่านก็มาจากรัฐธรรมนูญ 60 เหมือนกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องประชุมได้วุ่นวายขึ้น และเกิดการปะทะคารมกันอีกครั้ง โดยนายณัฐวุฒิ ท้านายเสรีว่า “หมดหนี้คสช. ให้ลาออกมาลงเลือกตั้งแข่งกันดีกว่า”
ขณะที่ นางอมรัตน์ ลุกขึ้นประท้วงว่า แบบนี้หรือที่เรียกว่าตัวเองมีวุฒิภาวะ ก็สมควรแล้วที่ประชาชนจะรังเกียจ ประธานฯไม่ให้พูดก็ยังจะพูด แบบนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างที่เลว
จากนั้น นายเสรี ได้ประท้วงว่านางอมรัตน์ใช้คำพูดไม่เหมาะสมขอให้ประธานฯ วินิจฉัยให้มีการถอนคำพูดดังกล่าว
แต่นายพรเพชร ระบุว่าไม่ได้ยิน และนางอมรัตน์ได้เดินออกจากห้องไปแล้ว ขอให้นายเสรีดำเนินการอภิปรายต่อ