"ชัยวุฒิ" อวย "ประวิตร" รักษาการนายกฯ ดีมาก ใส่ยีนส์-ผ้าใบ ดูวัยรุ่น กันเอง
"ชัยวุฒิ" เผย "ประวิตร" รักษาการนายกฯ ได้ดีมาก ปัด ปรับลุค ใส่ยีนส์-ผ้าใบ ไม่ได้เตรียมตัวเป็นนายกฯ แต่ดูเป็นกันเอง วัยรุ่นดี เตือน พรรคการเมือง จัดกิจกรรม ต้องระบุค่าใช้จ่าย แขวะ พท. เวทีหนึ่งหมดหลายล้าน
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะกล่าวถึงการทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่า ทำได้ดีมาก ทั้งการประชุม ครม. และ การประชุมต่างๆ
สำหรับการปรับการแต่งตัวโดยการสวมกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบลงพื้นที่นั้น ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งหน้าหรือไม่ นายชัยวุฒิ ทำเสียงสูงพร้อม ระบุว่า "ใส่กางเกงยีนส์แล้วเป็นนายกฯได้เลยเหรอ" ก่อนจะหัวเราะและบอกว่าไม่เกี่ยวกัน เคยบอกแล้วว่าโดยทั่วไปพล.อ.ประวิตร ก็เป็นคนแต่งตัวสบายๆ ใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืดเป็นปกติ เพียงแต่เวลาไปปฏิบัติราชการก็ต้องแต่งตัวเรียบร้อย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง ส่วนตัวมองว่าเป็นกันเองดูวัยรุ่นและคึกคักดี
ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนห่วงการทำกิจกรรมทางการเมืองหลังวันที่ 24 ก.ย. นี้ เป็นต้นไป จะมีหลายพรรคการเมืองไปจัดเวทีปราศรัย ขอฝากเตือนไปยังทุกพรรคว่าการจัดเวทีเครื่องเสียงค่าอาหารต่างๆ รวมเป็นค่าใช้จ่าย ต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน รวมไปถึงการที่คนมาฟังปราศรัยใส่เสื้อเหมือนกันหมดจะถูกมองว่าเป็นการแจกเสื้อด้วย จึงขอให้ระมัดระวังว่าคิดเป็นค่าใช้จ่ายหรือไม่และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรชี้แจงว่าทำอะไรได้บ้าง เช่น การแจกสิ่งของน้ำท่วม จะปล่อยให้พรรคใดพรรคหนึ่งได้เปรียบกันก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่ขณะนี้มีแค่ภาพรวมของกฎหมาย หากมาพูดในรายละเอียดจะมีปัญหามาก โดยเฉพาะพรรคใหญ่ๆ หลายพรรค ที่มีการเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมทางการเมืองซึ่งต้องระมัดระวัง
ส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลได้เปรียบในการนำสิ่งของราชการไปมอบให้กับประชาชนในช่วงน้ำท่วม เป็นการหาเสียงไปในตัวนั้นนายชัยวุฒิ กล่าวว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ กกต. ต้องชี้แจงว่าการที่หน่วยงานราชการไปช่วยเหลือประชาชน กกต. จะมองว่าอย่างไร แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะไม่ได้ทำในนามพรรค และเป็นการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน สิ่งที่ตนห่วงคือการลงพื้นที่หาเสียงในนามพรรค โดยเฉพาะพรรคใหญ่ที่จะแลนด์สไลด์ ที่จัดกิจกรรมแล้วมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก ตนมองว่าการจัดเวทีครั้งหนึ่งหมดเป็นหลายล้านถึง สิบล้าน เรื่องนี้ กกต. จะมองอย่างไร ขอให้ระวังด้วย