"ชลน่าน" ชี้2ปัจจัย เอื้อรัฐบาลยุบสภา ไม่เกินกลางเดือนธันวาคม

         นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากทราบผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำหน้าที่นายกฯ ต่อไปไม่สิ้นสุดตามคำร้องที่ฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้พิจารณาวาระครบ8ปี เมื่อ 25 สิงหาคม 2565 ว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเลือกเป็นนายกฯ จะทำหน้าที่ได้เพียง 2 ปี  แต่สถานการณ์ขณะนี้ ตนมองว่ามีความเป็นไปได้ 90%  ที่จะยุบสภา โดยมี 2 ปัจจัย คือ 

          1.ผู้มีอำนาจเห็นว่าตัวเองได้ประโยชน์ เพราะเตรียมองคาพยไว้หมดแล้ว การจัดระบบทุกอย่างพร้อม รวมถึงเงื่อนไขของกฎหมาย ถ้าเกิดให้อยู่จนครบวาระ ส.ส.จะต้องสังกัดพรรคภายใน 90 วัน และจะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่หากเลือกยุบสภาส.ส.ต้องสังกัดภายใน 30​ วัน และจัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ซึ่งจะเห็นว่ามีเวลาหาเสียงมากกว่าการปล่อยให้อยู่ครบวาระ ด้วยเหตุนี้ผู้มีอำนาจถ้าเลือกได้ก็จะไม่อยู่ครบวาระ

          2. ปัจจัยความขัดแย้งที่มากกว่าเดิม เพราะประชาชนนับเลขเป็น รับรู้ได้ อีกทั้งศาลยังใช้ช่องว่างทางการฏฎหมายวินิจฉัย วันนี้จำเลยของสังคมนอกจากพล.อ.ประยุทธ์แล้ว สังคมต้องไปมองที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วย เรื่องเหล่านี้จะทำให้เกิดความไม่สงบ อันเนื่องมาจากความเรียกร้องให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน 

         "การยุบสภา ผมมองว่าอาจเกิดขึ้นหลังจากเสร็จการประชุมเอเปกช่วง 19-20 พฤศจิกายน คือปลายเดือนพฤศจิกายน หรือกลางเดือนธันวาคม เพื่อให้เลือกตั้งช่วงกุมภาพันธ์ 2566" นพ.ชลน่าน กล่าว

          นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ทางที่ดีที่สุด คือ ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน ด้วยการยุบสภา ส่วนการยึดอำนาจนั้นหากมีคนสร้างสถานการณ์ทำเหตุการณ์ให้สมอ้างกับการทำรัฐประหาร ซึ่งจะทำให้ประเทศล้าหลัง เป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่นอน