"ครูใหญ่เนวิน" พลัง "ภูมิใจดูด" ฝันนัมเบอร์วัน ปูทาง"บิ๊กดีล"
การออกสู่ "ฉากหน้า" การเมืองอย่างเต็มตัวของ “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ นับเป็นการตอกย้ำฉากทัศน์การเมือง และบิ๊กดีลสำคัญหลังจากนี้
การเปิดใจการเมืองจริงๆ จังๆ ในรอบ 10 ปี ของ “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลางงานเบิร์ดเดย์ครบรอบ 64 ปี เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่ต่างอะไรกับการเปิดตัว ออกสู่หน้าฉากอย่างเต็มตัว ในห้วงที่สนามการเมืองกำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง
“เวิร์ดดิง” สำคัญที่ “ครูใหญ่เนวิน” พูดอย่างชัดเจนในงานคือ การปั้น “ลูกศิษย์” (อนุทิน) เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้
“เนวิน” ยังย้ำอีกว่า “ถ้าการรณรงค์เลือกตั้งครั้งหน้า ไม่สู้ให้อนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ผมก็จะลาออกจากครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย”
จับสัญญาณยามนี้ ชัดเจนว่า ไม่เพียงแต่ที่ “ครูใหญ่เนวิน” จะหวังดันลูกศิษย์หนู ขึ้นแท่น สร.1 เท่านั้น หากแต่ฝันไปถึงการเป็น “พรรคแกนนำ” 120 เสียงอัพ เพื่อเป็นพรรคนัมเบอร์วัน เป็นแกนนำจับขั้วการเมือง
สอดรับกับ “หัวหน้าห้องหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พูดเมื่อครั้งลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในทำนองเดียวกัน ขอ “พรรคต้นขั้ว” ที่เลือกได้เอาใครบ้าง
ยิ่งนับวัน “กลเกมค่ายสีน้ำเงิน” จะยิ่งทวีความอหังการ์ เปิดโปรย้ายค่ายโชว์พลัง “ภูมิใจดูด” บิ๊กเนม-โนเนม ขั้วซ้าย-ขวา จากทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะอีสาน ใต้ และกลาง
ไม่ว่าจะเป็น 132 ที่นั่ง ภาคอีสาน ที่เปิดเกมด้วย “ศรีสะเกษโมเดล” ดูดทั้ง “บ้านใหญ่ไตรสรณกุล” รวมถึง 2 สามีภรรยา “ผ่องศรี-ปวีณ” แซ่จึง และ จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.เพื่อไทยหลายสมัย ซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ หวังปักธงยกจังหวัด ปิดจ็อบค่ายคู่แข่งไปในคราวเดียว
ไม่ต่างจาก “ขอนแก่น” ที่ดูด 3 พ่อลูกช่างเหลา ทั้ง “เอกราช-วัฒนา-พิทักษ์ชน” ที่ตัดสินใจไม่ไปต่อกับพรรคเศรษฐกิจไทย ของ “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” ภายหลังถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ย้ายมาสวมเสื้อสีน้ำเงิน และเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับ “ตระกูลสมชัย” ก่อนหน้านี้ เปิดตัว “นวลนภา สมชัย” ศรีภรรยา “พ่อใหญ่ แห่งเมืองอุบลฯ” อิสสระ สมชัย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. ที่ปรากฏตัวในที่ประชุมพรรคภูมิใจไทย ในฐานะสมาชิกพรรคคนใหม่
ฉะนั้น การปรากฏตัวของ “แนน บุณย์ธิดา” สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ กลางงานวันเกิดครูใหญ่เนวิน จึงไม่ได้เหนือความคาดหมาย แม้เจ้าตัวจะบอกว่า เวลานี้ยังอยู่กับค่ายสีฟ้าก็ตาม
ยังไม่นับรวมในส่วนของ “ตระกูลแทนทรัพย์” คือ “สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์” ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ
ก่อนหน้านี้ ส่งลูกสาว “ไอเดียร์” สุชาดา แทนทรัพย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตสมาชิกกลุ่มนิวเด็ม สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ 19 ธ.ค.2564
ไม่ต่างจาก “ภาคกลาง” ก่อนหน้านี้ ภูมิใจไทยเปิดตัว 2 ตระกูลดัง เมืองพิจิตรทั้ง “ภัทรประสิทธิ์- ขจรประศาสน์” ทั้ง วินัย ภัทรประสิทธิ์ เและ ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร โดยมี ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นขุนพลเมืองชาละวันในศึกรอบนี้
ยังไม่นับรวมลิสต์รายชื่อ ส.ส.ภาคกลาง ที่ปรากฏตัวในงานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น นิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก วุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก มณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ ปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม พรรคพลังประชารัฐ นพ ชีวานันท์ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย อนุชา น้อยวงศ ส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐ รวมถึง กฤษณ์ แก้วอยู่ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นต้น
ขณะที่สมรภูมิ “ภาคใต้” แม้จะไม่ได้สะท้อนภาพเกมดูดที่ชัดเจนเหมือน2ภาคแรก แต่ศึกเลือกตั้งรอบนี้ ค่ายสีน้ำเงินยังคงหมายมั่นที่จะเจาะภาคใต้ ให้ได้อย่างน้อย 25 ที่นั่ง จากทั้งหมด 58 ที่นั่ง เพื่อไปเติมเสียง “ตีตั๋วผู้แทน”ให้ได้เกิน 100 เพื่อสร้างแต้มต่อในอนาคตอันใกล้
ฉะนั้น การออกสู่ "ฉากหน้า" การเมืองอย่างเต็มตัว “ครูใหญ่เมืองปราสาทหิน”รอบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการส่งสัญญาณฉากทัศน์การเมืองหลังจากนี้ทั้งการส่งสาส์นท้ารบ โดยเฉพาะ “ค่ายนายห้างดูไบ” ที่ยามนี้กำลังโหมกระแส “สั่งสอนงูเห่า” เลือกผู้แทนแบบแลนด์สไลด์
หรือแม้แต่การเปิดเกมด้วยตัวเลข 120 เสียงที่ “ครูใหญ่เนวิน” เดิมพันไว้ ไม่เพียงแต่หมายมั่นปั้นพรรคภูมิใจไทยให้เป็นพรรคต้นขั้วเท่านั้น หากแต่ยังหวังไปถึง“บิ๊กดีล”สำคัญ ช็อตเด็ดต่อจากนี้