"ปูติน" บินไทย ถก "เอเปค 2022" ผบ.ทสส. ยันไร้สัญญาณก่อเหตุร้าย
ผบ.ทสส. ยันเหล่าทัพ-ตร. พร้อมทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยประชุมเอเปค 2022 ลั่นยังไม่มีปัจจัยเกิดเหตุรุนแรง ด้านแหล่งข่าวความมั่นคงเผย “ปูติน” ร่วมด้วย พร้อมคุมเข้ม ม็อบ จับตาผู้ก่อไม่สงบชายแดนใต้
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ถ.แจ้งวัฒนะ พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 ถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในการประชุมเอเปคว่า จากการติดตามข้อมูลด้านการข่าวของทางทหาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมิตรประเทศยังไม่มีปัจจัยหรือสิ่งบอกเหตุที่จะเกิดเหตุร้าย แต่บางทีอาจจะมีผู้นำบางประเทศ ที่ปัจจุบันมีความขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ได้รับทราบข้อมูลแล้ว
อีกทั้งยังได้ติดตามตัวผู้ที่มีขีดความสามารถ และตั้งใจก่อเหตุที่อาจจะส่งผลต่อการเตรียมการ รวมทั้งการดูแลรักษาความปลอดภัยของสถานที่ แผนการปฏิบัติเรื่องความปลอดภัย ตั้งแต่เครื่องบินเข้าสู่น่านฟ้าของประเทศไทย ได้มีการเตรียมแผนที่รัดกุมร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเหล่าทัพ ซึ่งถือเป็นภารกิจที่เราต้องปฏิบัติ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้สั่งการ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มในประเทศ โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อยประเทศเพื่อนบ้านนั้น พลเอก เฉลิมพล กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านี้มีเพียงแต่แนวคิด ยังไม่มีพฤติกรรมที่จะก่อเหตุ หรือสร้างความรุนแรงแต่อย่างใด โดยเน้นการแสดงความคิดเห็นเป็นหลัก เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ทราบดีว่าหากก่อเหตุรุนแรงแล้วเขาจะไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้
ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ในการประชุมเตรียมการรักษาความปลอดภัยการประชุมเอเปคของหน่วยข่าวทางทหาร และตำรวจนั้น กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งความคืบหน้าในการตอบรับเข้าร่วมประชุมผู้นำประเทศมหาอำนาจมาแล้ว ล่าสุดนาย วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยืนยันเดินทางมาเข้าร่วมประชุม ส่วนนายสี จิ้นผิง ผู้นำจีน อยู่ระหว่างการรอยืนยัน ขณะที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังยืนยันการส่งผู้แทนเข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานความมั่นคงยังประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเคลื่อนไหวในช่วงนั้นว่า มีหลายกลุ่ม แต่จะไม่นำไปสู่เหตุวุ่นวายและความรุนแรง ส่วนใหญ่มีเป้าหมายแค่ต้องการแสดงตัวตนเท่านั้น ทั้งนี้ได้ให้หน่วยข่าวจับตามองกลุ่มผู้ก่อความรุนแรงในจังหวัดพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษ โดยเป็นการเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวที่สุ่มเสี่ยงจะขึ้นมาก่อเหตุในพื้นที่กทม.