"พรรคเพื่อชาติ" รีแบรนด์ดิ้ง "มาดามฮาย" วางเป้ากวาดส.ส.10ที่เข้าสภาฯ
"มาดามฮาย" ประกาศปรับโฉมพรรคเพื่อชาติโฉมใหม่ ชูเป็นความหวัง ตั้งเป้าคว้าส.ส.เข้าสภาฯ10ที่ ด้าน "ยงยุทธ" ประกาศเป็นนั่งร้านให้คนรุ่นใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อชาติ ที่มี น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช เป็นหัวหน้าพรรค จัดงานรีแบรนด์ดิ้งพรรคโฉมใหม่ ภายใต้ชื่องาน “เพื่อชาติ(นี้) ไม่ต้องรอชาติหน้า” พร้อมเปิดตัวผู้บริหารของพรรคชุดใหม่
โดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติต้องการสลัดภาพเดิมภาพพรรคพี่พรรคน้อง เพื่อนำเสนอภาพว่าพรรคเพื่อชาติคือความหวังของคนในชาติ แม้ตนจะมีอายุเพียง 31 ปี แต่เคยบริหารทีมฟุตบอลมาก่อน จึงมั่นใจในความสามารถของตนเอง ส่วนการเตรียมพร้อมเลือกตั้งนั้น จะส่งผู้สมัคร ส.ส.เขตครบทั้ง 400 เขต ส่วนตนจะลงสมัครเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่ง ขณะที่จำนวนส.ส.ที่จะเข้าสภาฯ คือ 10 คน ขณะที่การเลือกตั้งในพื้นที่จ.เชียงรายนั้น คาดหวังจะได้ส.ส.หลายเขต แม้ว่าจะทับซ้อนกับพรรคเพื่อไทยก็ตาม
"พรรคเพื่อชาติยึดมั่นความเป็นประชาธิปไตย และความเสมอภาคเท่าเทียม พรรคเพื่อชาติจะเป็นตัวจริง ซึ่งในเชียงรายจะมีบ้านใหญ่หลายตระกูลแต่พรรคเพื่อชาติไม่ได้แข่งกับตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แต่แข่งกับทุกพรรคหวังเป็นตัวจริงของคนไทย" น.ส.ปวิศรัฐฐ์ กล่าว
เมื่อถามถึงการวางตัวบุคคลเพื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อชาติ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติกล่าวว่าเบื้องต้น ทาบทามไว้ 1 คน ส่วนตนเองนั้นอายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเสนอชื่อได้ ทั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ของพรรคทั้งหมด 5 คนเลือกทำงานการเมืองตามอุดมการณ์ ขณะที่ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ อาจไม่ได้อยู่พรรคเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในงานดังกล่าว นายยงยุทธ ติยะไพรัช ขึ้นเวทีฐานะวิทยากร ระบุตอนหนึ่งว่าพรรคเพื่อชาติ ประกาศสนับสนุนคนรุ่นใหม่เพื่อทำงานการเมืองโดยตนขอเป็นนั่งร้าน ที่อำนวยความสะดวกให้คนการเมืองรุ่นใหม่ของพรรค มองความต่างจากพรรคเพื่อชาติเดิม คือจะไม่เดินการเมืองแนวคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจ หลังอยู่ในระบบทุนนิยมผูกขาดมานาน
"พรรคเพื่อชาติคือ เนื้อใน ที่หมายถึงคนรุ่นใหม่ภายในพรรค จะทำให้เกิดวัฒนธรรมขององค์กรที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งคนรุ่นใหม่จะมีแนวทาง ทำการเมืองของตัวเอง ผมไม่ขอเป็นครูใหญ่ แต่จะขอเป็นนั่งร้าน ได้นำประสบการณ์ทั้งในเชิงความสำเร็จและความล้มเหลว มาถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ ผมไม่ขอเปรียบเทียบภาพการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทย เพราะประชาชนคือผู้ตัดสินว่าจะพรรคเพื่อชาติจะแตกต่างหรือมีความโดดเด่นอย่างไร" นายยงยุทธ กล่าว
นายยงยุทธ กล่าวด้วยว่า ตนจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ขณะที่กติกาการเมืองที่เปลี่ยนแปลง ตนเชื่อว่าพรรคเพื่อชาติสามารถเงยหน้าขึ้นได้.