"ก้าวไกล" ยัน เดินหน้า นิรโทษกรรมคดีการเมือง เปิดช่อง ตั้งแต่ก่อนปี 57
"รังสิมันต์ โรม" ย้ำ นิรโทษกรรม คดีการเมือง เปิดช่องตั้งแต่ก่อน ปี 57 พร้อมตั้ง คกก.พิจารณา ให้กับผู้ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ปัด "ก้าวไกล" เป็นศัตรูกองทัพ หลังชงรื้อใหญ่โครงสร้าง ลั่น เลิกได้แล้ว เกณฑ์ทหาร
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคก้าวไกล เปิดนโยบายการนิรโทษกรรมคดีการเมืองตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นมา นั้นหมายรวมถึงการนิรโทษกรรมคดี112 ด้วยหรือไม่ ว่า ต้องบอกว่าทุกคดีมีเจตนารมณ์เพื่อใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง โดยไม่ใช่แค่คดี มาตรา112 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ มาตรา116 แต่คือคดีที่ถูกใช้เพื่อความมุ่งหมายทางการเมือง คือขอบข่ายที่จะได้รับพิจารณานิรโทษกรรม รวมถึงเราเปิดช่องให้คดีก่อนหน้าปี2557 สำหรับคนที่ยังรู้สึกว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ยื่นเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการเพื่อให้เกิดการนิรโทษกรรม
เมื่อถามว่า คณะกรรมการชุดนี้ ชื่อคณะกรรมการนิรโทษกรรม ที่พรรคก้าวไกล จะเสนอตั้งขึ้นใช่หรือไม่ หรือยังเป็นเพียงแค่ตุ๊กตายังไม่ได้ตั้งชื่อหรือกำหนดรูปแบบ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังเป็นเพียงตุ๊กตาอยู่ แต่ว่ากรรมการชุดนี้ จะมีภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม
เมื่อถามว่า รูปแบบคณะกรรมการดังกล่าว นอกจากภาคประชาชน จะมีสัดส่วนจากกองทัพทหาร ตำรวจ นักการเมือง ร่วมด้วยหรือไม่ และจะสุดซอย เหมือนฉบับของพรรคเพื่อไทย เคยทำหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่างว่า อาจจะยังไม่ลงรายละเอียดขนาดนั้น เราให้ความสำคัญที่ภาคประชาชน เราไม่นิรโทษกรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติตามคำสั่ง การนิรโทษกรรมจะเน้นไปที่ประชาชน
เมื่อถามว่า การนิรโทษกรรมดังกล่าว จะหมายรวมถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่ถูกร้องคดีเกี่ยวกับมาตรา112 อยู่ด้วย หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่คิดเอาไว้ในกลไกนี้คือ คณะกรรมการในการนิรโทษกรรม จะทำได้ก็คือ 1.ตัวคณะกรรมการเป็นผู้ริเริ่ม แต่เมื่อริเริ่มไปแล้ว ผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรมต้องยินยอมด้วย หมายถึงว่า ในบางกรณีผู้ได้รับเขาก็อาจจะรู้สึกว่า ไม่อยากได้รับ และแสดงเจตจำนงว่าไม่เอา การนิรโทษกรรม ที่คณะกรรมการลงความเห็นว่า ควรจะนิรโทษกรรม ดังนั้นมันก็เปิดช่องเพื่อไม่ให้เกิดการโจมตีในแง่ลบ ว่าเป็นการนิรโทษกรรมเพื่อพวกตนเองหรือเปล่าช่องนี้จะเปิดไว้ เพื่อไม่ให้ใครเอาประเด็นพวกนี้มาทำลายการนิรโทษกรรม เขาเหล่านั้นก็อาจจะประกาศว่า เขาไม่เข้าร่วมการนิรโทษกรรม
เมื่อถามว่า นโยบายก้าวไกล รื้อโครงสร้างครั้งใหญ่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ยุบกอ.รมน. ต่างๆของกองทัพ และมาตรา112 นั้น นโยบายของก้าวไกลไม่ได้เพื่อเป็นศัตรู กับกองทัพและสถาบันฯ ใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าดูดี ๆ ไม่มีส่วนไหนทำให้สถาบันฯ หรือกองทัพถูกด้อยค่าเลย มาตรา112 นำมาใช้แบบนี้ มันส่งผลเสียต่อสถาบันฯด้วยซ้ำ หรือกองทัพเอง อาจจะไม่เคยมีใครกล้าแตะ ทรัพยากรกองทัพจำนวนมาก ไม่เกิดการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเรื่องที่ดิน การเกณฑ์ทหาร ที่สังคมสมัยนี้เราควรจะยกเลิกได้แล้ว การปฏิรูปครั้งนี้ มันจะทำให้ประเทศจะได้รับอานิสงค์ผลดีไปด้วย จะได้กองทัพที่มีประสิทธิภาพ และ เป็นการปกป้องสถาบันฯภายในตัว จากความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ส่งผลเสียต่อทั้งสองสถาบัน อยากให้มองด้วยใจเป็นกลางว่า ข้อเสนอของเราส่งผลดีจริงๆ กับทุกฝ่าย และเรายินดีเปิดรับในการแลกเปลี่ยน แต่ว่าอย่าโจมตีสร้างความรู้สึกว่า ข้อเสนอเราเป็นการล้มล้าง โดยไม่มีการพูดคุยกันอย่างมีเหตุผล