“พิธา” ให้คะแนนรัฐบาลติดลบทุกด้าน ประชาชนสิ้นหวัง เศรษฐกิจโตช้าสุดในอาเซียน

“พิธา” ให้คะแนนรัฐบาลติดลบทุกด้าน ประชาชนสิ้นหวัง เศรษฐกิจโตช้าสุดในอาเซียน

“พิธา” พูดกลางวงเสวนา ให้คะแนนรัฐบาลติดลบทุกด้าน กลายเป็นสังคมแห่งความสิ้นหวัง เศรษฐกิจโตช้าสุดในอาเซียน ทำประชาชนตื่นรู้ เกิดฉันทามติทางสังคมต้องการเปลี่ยนแปลง ย้ำอนาคตมองเป้าชาติเติบโต ลดความเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมวงเสวนา “ตื่น ฟื้น ฝัน” จัดขึ้นโดยสำนักข่าวไทยรัฐ ซึ่งเชิญบุคคลจากทั้งวงการเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ร่วมแลกเปลี่ยนถึงความเป็นไปในอนาคตของประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า สังคมไทยตื่นรู้ขึ้นกว่าเดิมมาก มีฉันทามติร่วมกันอย่างเห็นได้ชัดในกลุ่มคนหลายชนชั้น ฐานประชากร และอายุ ที่ต้องการ การเลือกตั้งครั้งใหม่ การเปลี่ยนแปลงกฎกติกาที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าไปได้ มองเห็นความเชื่อมโยงกันระหว่างการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เข้าใจในเรื่องของความเหลื่อมล้ำ และการกระจายอำนาจ เชื่อว่ารัฐประหารไม่ใช่คำตอบ

ส่วนการให้คะแนนรัฐบาลนั้น นายพิธา กล่าวว่า ขอให้คะแนนติดลบ ด้านแรก ในเรื่องของเศรษฐกิจ แม้ในไตรมาสล่าสุดจะโตขึ้นมา 2.5% เป็นอันดับ 6 ของอาเซียน แต่ก็ยังตามหลังเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ที่โตสูงสุดกว่า 7% และยังมีปัญหาการฟื้นฟูหลังโควิดที่ไม่เท่าเทียมกัน จนนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ในด้านการเมือง 8 ปีที่ผ่านมา ดัชนีชี้วัดการทุจริตของไทยตกไป 8 อันดับ คะแนนความเป็นประชาธิปไตยก็ลดลงมาจนเกือบจะตกการจัดชั้นเป็นประเทศประชาธิปไตย ส่วนในด้านสังคม ประเทศไทยก็มีคนเสียชีวิตด้วยการทำร้ายตัวเอง ยาเสพติด สุราเรื้อรัง เพิ่มขึ้นถึง 34% เป็นอันดับ 1 ในประเทศอาเซียน

“พิธา” ให้คะแนนรัฐบาลติดลบทุกด้าน ประชาชนสิ้นหวัง เศรษฐกิจโตช้าสุดในอาเซียน

นายพิธา กล่าวด้วยว่า สำหรับอนาคตของประเทศไทย ตัวเองอยากเห็นการเติบโตที่ตอบโจทย์ความท้าทาย ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล การแปรรูปสินค้าการเกษตร การปฏิรูปการศึกษา และการลดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะในด้านรายได้ การถือครองทรัพย์สิน การเข้าถึงทรัพยากร และความเหลื่อมล้ำระหว่างพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาการจัดสรรงบประมาณล้วนไม่ตอบโจทย์ดังกล่าว ดังนั้น ในทางเป้าหมาย จะต้องมีการกระจายที่ดินที่ถือครองโดยรัฐอยู่ถึง 60% โดยต้องมีการลดลงให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง การกระจายภาคท่องเที่ยวไม่ให้กระจุกอยู่แค่ 5 จังหวัดหลัก แต่ต้องให้เมืองรองได้รับผลพวงจากการเติบโตด้วย อุตสาหกรรมที่ไม่พึ่งเพียงภาคยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์อย่างเดียวแต่มีอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่สามารถกระจายความมั่งคั่งออกไปได้ทั่วประเทศอย่างยั่งยืน และการกระจายทั้งอำนาจ และงบประมาณออกไปสู่ทุกพื้นที่

“พิธา” ให้คะแนนรัฐบาลติดลบทุกด้าน ประชาชนสิ้นหวัง เศรษฐกิจโตช้าสุดในอาเซียน

“จะมีประโยชน์อะไรถ้าประเทศจะมีคนรวยบ้านรั้วสูง และเต็มไปด้วยปัญหาสังคม ผมอยากฝันเห็นประเทศไทยที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน การเติบโตที่มาพร้อมกับความเท่าเทียม ทั้งในเรื่องของการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง และเศรษฐกิจที่เติบโตควบคู่กับสวัสดิการไปด้วยกัน” นายพิธา กล่าว

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์