“ธนาธร” วอน ส.ส.ทุกพรรค ยืนข้าง ปชช.เหนือทุนผูกขาด โหวตผ่าน “สุราก้าวหน้า”
“ธนาธร” วอน ส.ส.ทุกพรรค จับมือกันยืนข้างประชาชน เหนือกลุ่มทุนผูกขาด ร่วมกันโหวตผ่านร่างกฎหมาย “สุราก้าวหน้า” ชี้ถ้าสำเร็จเกิดการแบ่งตลาดสู่เกษตรกร-ผู้ประกอบการ SME กว่า 1 แสนล้านบาท
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2565 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมวงพูดคุยและตอบคำถามของสื่อมวลชน ถึงมุมมองต่อความเคลื่อนไหวในช่วงที่ผ่านมา ของการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือ “สุราก้าวหน้า” ที่กำลังจะมีการพิจารณาในวาระที่ 2 โดยสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 2 พ.ย. ว่า ข้อจำกัดของกฎหมายที่เกี่ยวกับสุรา เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในระบบผูกขาดที่ไม่มีการแข่งขันมากพอ จนไม่นำมาซึ่งนวัตกรรม สินค้า และบริการ ที่จะทำให้ประเทศไทยแข่งขันกับต่างประเทศได้ ความพยายามแก้ไขกฎหมายสุราก้าวหน้า จึงเป็นความพยายามของพวกเรามาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่คนตัวเล็กตัวน้อย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร การสร้างนวัตกรรมในประเทศ
นายธนาธร กล่าวว่า ตลาดสุราในประเทศไทย ในส่วนของธุรกิจเบียร์มีผู้เล่นรายใหญ่รายเดียวมาตั้งแต่ปี 2476 เช่นเดียวกับเหล้าขาว ที่มีผู้เล่นรายใหญ่มารายเดียวตั้งแต่ปี 2528 ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไม่มีใครเคยพูดถึงมาก่อน ด้วยตลาดสุราไทยที่มีขนาดถึง 4 แสนล้านบาท ขอเพียงเกิดการนำเอาส่วนแบ่งทางการตลาดที่ผูกขาดอยู่โดยกลุ่มทุนใหญ่ มาแบ่งให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เพียง 25% เราจะสามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในหมู่เกษตรกรและผู้ประกอบการสุรารายย่อยเพิ่มขึ้นได้ถึง 1 แสนล้านบาท สุราก้าวหน้า จึงเป็นความพยายามครั้งสำคัญของสังคมไทย ที่จะให้มีการปลดล็อกศักยภาพของประเทศอย่างมหาศาล
นายธนาธร กล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงขอแรงสนับสนุนจากคนไทยทุกคนที่เห็นด้วย ช่วยกันส่งเสียง แสดงจุดยืน กดดันไปยังผู้แทนของทุกคน และต้องขอความสนับสนุนจากทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลด้วย การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ ส.ส. ทุกคนจะได้มาโหวตโดยเห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนมากกว่าความเป็นฝักฝ่าย นี่คือการเมืองที่ทุกคนอยากเห็น
“ส.ส. จะอภิปรายอะไรไม่มีความหมายความสำคัญเลย สิ่งที่สำคัญกว่าคือจะโหวตอย่างไร ที่ผ่านมาเราเห็น ส.ส. หลายคนเวลาอภิปรายพูดอย่างหนึ่ง แต่ถึงเวลากลับโหวตอีกแบบหนึ่ง การโหวตเท่านั้นที่จะส่งผลออกมาเป็นกฎหมายได้ จึงขอให้ประชาชนและสื่อมวลชน ได้ร่วมกันติดตามการลงคะแนนของผู้แทนราษฎรทุกคนอย่างใกล้ชิด” นายธนาธร กล่าว
นายธนาธร กล่าวด้วยว่า ไม่ว่ากฎหมายสุราก้าวหน้าจะผ่านหรือไม่ สิ่งที่พรรคก้าวไกลได้ทำสำเร็จไปแล้วคือการประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านการผูกขาดทางเศรษฐกิจ ซึ่งตัวเองเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่ง ว่าในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอด 4 ปี ทั้งเรื่องของ ทรู-ดีแท็ค, แม็คโคร-โลตัส, การประมูลสัปทานร้านค้าปลอดภาษีในสนามบิน และกรณีกลุ่มทุนโทรคมนาคม หากเป็นรัฐบาลพรรคก้าวไกล จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นี่คือจุดยืนที่ทั้งพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้ามีมาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งผลของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ น่าจะสามารถชี้ชะตาของพรรคการเมืองต่างๆ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ด้วย