"วุฒิสภา" 179 : 4 เสียง รับหลักการ ร่างพ.ร.บ.กยศ.
"วุฒิสภา" เสียงข้างมากรับหลักการ ร่างพ.ร.บ.กยศ. หลังอภิปรายค้านงดเก็บดอกเบี้ย และค่าปรับ ด้าน "ผู้จัดการกองทุน กยศ." ห่วงหากไม่เก็บดอกเบี้ย ในระยะ3ปี อาจต้องพึ่งงบประมาณของรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (พ.ร.บ.กยศ.) (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบ ของวุฒิสภา ในวาระแรก ที่ประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้ลงมติรับหลักการด้วยเสียง 179 ต่อ 4 เสียง งดออกเสียง 4
จากนั้นได้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 27 คนเพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จในกรอบเวลา ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.กยศ. ถือเป็นร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน วุฒิสภาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน หรือถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ดีในการอภิปรายของส.ว. แสดงความเห็นคัดค้านต่อเนื้อหาที่สภาฯ แก้ไขเปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ คือ ไม่เก็บดอกเบี้ย และ ไม่เก็บค่าปรับผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้ผู้กู้ยืมเงินไม่มีวินัย เป็นภาระทางงบประมาณของรัฐบาลในอนาคต ทั้งนี้มีข้อเสนอของส.ว. ให้อำนาจกับกรรมการกองทุน กยศ. เพื่อให้พิจารณาอย่างยืดหยุ่นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เช่น ให้มีระยะการปลอดดอกเบี้ย หากประเทศประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ คนตกงาน คนไม่มีรายได้ไม่เพียงพอ เป็นต้น
ทั้งนี้นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุน กยศ. ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาด้วยว่า กรณีที่ไม่เก็บดอกเบี้ย จะทำให้กองทุนเสียรายได้ 1.6 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้หลังสภาฯ ผ่านวาระสามของ ร่างพ.ร.บ.กยศ. ทำให้มีผู้ชำระเงินกู้คืน ตกลงไป 26% หากสภาพการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อไป ภายใน 3 ปี ต้องกลับไปใช้งบประมาณแผ่นดิน หรือกลับมาใช้ระบบโควต้าให้กู้ยืมเงิน ส่วนการฟ้องคดี กยศ.ไมมีนโยบายหากไม่จำเป็น และที่ผ่านมากองทุน กยศ. จะใช้วิธีไกล่เกลี่ยและประนีประนอมแทนการฟ้องคดี.