ล่าม “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” ห้ามทิ้งลุง “บ้านใหญ่ปากน้ำ” พ่ายเกมอำนาจ

 

จังหวะที่การเลือกตั้งกำลังจะมาถึง นักการเมืองทั่วทุกสารทิศต่างดี๊ด๊ากับดีลย้ายพรรค ภายใต้เงื่อนไขสุดแสนเร้าใจ แต่ดูเหมือน “บ้านใหญ่ปากน้ำ” กลับไร้อิสระที่จะคิดอ่าน หรือเดินต่อไปตามเส้นทางที่ตัวเองต้องการ

เมื่อ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” แกนนำกลุ่ม ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ โดนป.ป.ช.ฟัน ถูกชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 กรณีใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ อันทำให้เสียหายแก่รัฐ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต กรณีถูกกล่าวหาว่า มีการใช้จ่ายเงินอุดหนุนวัดในสมุทรปราการโดยมิชอบ กว่า 20 โครงการ ในการบูรณะบำรุงวัด และเตาเผาศพ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า100 ล้านบาท เมื่อครั้งเป็นนายกฯ อบจ.สมุทรปราการ เมื่อ 10 ปีก่อน (ช่วงปี 2554-2556) 

ทั้งที่คดีดังกล่าวค้างเติ่งใน ป.ป.ช. อยู่นานหลายปี แต่พลันที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ภาพร่วมรับประทานอาหารกับ “ชนม์สวัสดิ์” พร้อมด้วยลูกสาว ชนม์ทิดา อัศวเหม ที่คบหาดูใจกับลูกชายอนุทิน หรือเศรณี ชาญวีรกูล ซึ่งสองตระกูลกำลังจะดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน

ท่ามกลางการจับตาว่ากลุ่มปากน้ำ ที่นำโดย “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” เตรียมผละจากอ้อมอกลุงป้อมประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปอยู่กับภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่

จะว่าไปแล้ว ซุ้มปากน้ำ ถือเป็นสายตรงของ พล.อ.ประวิตร ช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาล หรือ ปรับครม. “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” ไม่เคยให้ ส.ส.ในซุ้มเคลื่อนไหวขอเก้าอี้รัฐมนตรี จนคนวงนอกพูดว่าส.ส.บ้านใหญ่ปากน้ำเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทของลุงป้อม

ภาพหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เป็นลูกรักของ พล.อ.ประวิตร คนปากน้ำที่ไปร่วมพิธีฌาปนกิจศพ ศุภัช พูลเจริญ อดีตนายกเล็กด่านสำโรง บิดาของ ส.ส.ภริม พูลเจริญ ที่วัดด่านสำโรงเมื่อ 18 ก.ย. 2564 คงจำได้ถึงช็อตที่ชนม์สวัสดิ์ ไปส่ง พล.อ.ประวิตร ถึงประตูรถ แล้วก้มกราบลงบนตัก และลุงป้อมก็ยกมือลูบศรีษะทายาทตระกูลอัศวเหมอย่างเอ็นดู

การเลือกตั้งปี 2562 ไม่มีใครคาดคิดว่า ตระกูลอัศวเหม จะกลับมายึดพื้นที่ ส.ส.สมุทรปราการได้เกือบยกจังหวัด หลังจากพ่ายให้

กระแสไทยรักไทยมาหลายครั้งหลายครา จนพื้นที่การเมืองของบ้านใหญ่เหลือแค่อบจ.สมุทรปราการและเทศบาลนครสมุทรปราการ

ชั่วโมงนี้ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่เป็นประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ แต่ก็รับบทประมุขม้าทองคำ รุ่นที่ 2 เป็นแม่ทัพหลังม่านบ้านใหญ่  

ส่วน รุ่นที่ 3 ล้วนมีตำแหน่งทางการเมือง ทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ อัครวัฒน์ อัศวเหม หลานชายวัฒนา เป็น ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 ต่อศักดิ์ อัศวเหม หลานชายวัฒนา เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อและอดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 ประภาพร อัศวเหม ภรรยาของพูลผล อัศวเหม เป็นนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ

นันทิดา แก้วบัวสาย อดีตภรรยาของชนม์สวัสดิ์ เป็นนายก อบจ.สมุทรปราการ นี่คือที่มั่นการเมืองท้องถิ่นของบ้านใหญ่ โดยเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ปักธงมา 3 สมัยแล้ว พิม อัศวเหม ลูกสาวของประภาพร เป็นสมาชิกสภา อบจ.สมุทรปราการ เขต อ.พระสมุทรเจดีย์ และเตรียมตัวเข้าสู่สนามส.ส.

นักสังเกตการณ์มองว่า การจับประมุขบ้านใหญ่ปากน้ำ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” เป็นตัวประกัน ด้วยคดีใน ป.ป.ช. มีส่วนเชื่อมโยงกับ “บิ๊ก พ.” ผู้มากอิทธิพลหรือไม่ เพราะเริ่มเห็นเค้าลางแล้วว่า บ้านใหญ่ปากน้ำมีแววจะทิ้งพลังประชารัฐไปจริงๆ “บิ๊ก พ.” ถึงต้องเดินเกม ใช้เครือข่ายในคอนโทรลจัดการล่ามขาบ้านใหญ่ปากน้ำไม่ให้ไปไหน

ทั้งที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา 6 ส.ส.สมุทรปราการ ภายใต้การนำของชนม์สวัสดิ์ได้แก่ กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ ฐาปกรณ์ กุลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ พริม พูลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ ยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ อัครวัฒน์ อัศวเหมส.ส.สมุทรปราการ และ ต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ สร้างผลงานห้าวเป้ง แผลงฤทธิ์ใส่ 2 บิ๊กรัฐบาล ที่เป็นสายตรง ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ด้วยการโหวตสวน เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ และอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ท่ามกลางข้อสังเกตว่า มี บิ๊ก พ. ให้ท้ายอยู่เบื้องหลัง หวังผลปรับครม.

วีรกรรมของก๊วนปากน้ำ ทำเอา “นายกฯ ประยุทธ์” ควันออกหู แต่ดูเหมือนจะถูกใจ ประวิตร และ บิ๊ก พ. อย่างมาก หลังเหตุการณ์นั้น พี่ใหญ่แห่ง 3 ป. ลงพื้นที่สมุทรปราการ ทันที พร้อมกับตกปากรับคำจะปูนบำเหน็จเก้าอี้รัฐมนตรีให้ แต่จนถึงวันนี้ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นจริง ในเมื่อประวิตร เสนอ แต่ ประยุทธ์ ไม่สนอง ก๊วนปากน้ำ ก็ฝันสลาย

น่าสนใจว่า เกมของผู้มีอำนาจที่ใช้ชนม์สวัสดิ์เป็นตัวประกัน เพราะไม่อยากเสียบ้านใหญ่สมุทรปราการไปให้กับใคร ด้วยเครือข่ายท้องถิ่น กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ที่มีความเข้มแข็งมีเครือข่ายและคุมกลไกในพื้นที่อย่างอยู่หมัด จึงค่อนข้างการันตีได้ว่า เลือกตั้งครั้งหน้า จะสร้างผลงานน่าพอใจ โดยแทบไม่ต้องอาศัยกระแสพรรค

นอกจากนั้น ยังมีข้อสังเกตว่า ผู้มีอำนาจยังหวังผล ห้ามภาวะเลือดไหล ในจังหวะที่หลายกลุ่มก๊วนของพลังประชารัฐ เก็บข้าวของเตรียมย้ายพรรคกันเป็นแถว

การขยับของผู้มีอำนาจเวลานี้ กำลังใช้กลยุทธ์เดิมหรือไม่ คือ งัดคดีมาเป็นเครื่องมือต่อรอง บีบกลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆ ให้มาอยู่ด้วย ตั้งแต่ช่วงก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ก่อนเลือกตั้งปี 62 และกลยุทธ์นี้ กำลังถูกนำมาใช้อีกครั้ง เพื่อตรึงกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ให้หนีไปไหน หากยังดื้อแพ่งก็อาจมีอันเป็นไปในทางการเมืองได้เลยทีเดียว

เกมอำนาจตานี้ ที่เพิ่งเขย่าขวัญบ้านใหญ่ปากน้ำ จึงไม่ต่างกับการเขียนเสือให้วัวกลัว คนที่มีชนักติดหลัง หากคิดจะตีจาก คงต้องคิดให้มาก และต้องไม่ลืมว่ากำลังเล่นอยู่ในเกมของใคร