ก้าวไกล ขอบคุณเสียงหนุน "สุราก้าวหน้า" ลั่นชูแคมเปญ เอาคืน "ผู้เฒ่าทำเนียบ"
พรรคก้าวไกล แถลงขอบคุณ เสียงหนุน "พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า" - "เท่าพิภพ" ลั่นไม่ท้อ จ่อเอาคืน "ผู้เฒ่าทำเนียบ" ชูแคมเปญทำได้ทันที - แก้ภายใน 2-3 วัน หากก้าวไกลเป็นรัฐบาล
ที่รัฐสภา พรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. แถลงข่าวหลังสภามีมติคว่ำร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ฉบับที่.. พ.ศ. … หรือพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า
โดยนายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวมีกำลังใจดีไม่เสียใจเลย เพราะเราเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกลก็ควรที่จะภูมิใจกับผลงานของเขา และควรที่จะยิ้มสู้อยู่ คนที่ร้องไห้ได้คนเดียวคือ นายเท่าพิภพ ก็คงจะต้องใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณเพื่อนส.ส. และขอบคุณประชาชนที่คอยให้การสนับสนุนร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า มาโดยตลอด
แม้วันนี้เราจะยังไม่สามารถปลดล็อกความเหลื่อมล้ำ แต่ตนเชื่อว่ายังสามารถปักหมุดได้ในระดับหนึ่ง ในการเป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกลตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่
ถ้าครั้งนี้ส.ส.ยังไม่สามารถโหวตและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในรัฐสภา ก็เหมือนกับเป็นการปิดประตูไปบานหนึ่ง และเราต้องเปิดประตูบานใหม่คือ การเลือกตั้งที่จะถึง แน่นอนว่านโยบายสุราก้าวหน้าจะเป็นนโยบายที่เป็นเรือธงของพรคคก้าวไกล
ซึ่งหากประชาชนชอบนโยบายนี้ก็ขอให้เลือกพรรคที่สนับสนุนเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า และการทลายกลุ่มทุนผูกขาด และในที่สุดก็จะไปปรับปรุงเค้าโครงด้านเศรษฐกิจใหม่ เพื่อที่จะให้ผู้ประกอบการไทย และเกษตรกรไทยไปสู่เวทีโลกได้ ฉะนั้นขอยืนยันว่าเราเสียดายแต่ไม่เสียใจ ยังเข้มเเข็ง และพร้อมที่จะทำงานต่อเพื่อประชาชนให้มากขึ้น
ด้าน นายเท่าพิภพ กล่าวว่า มันยากที่คนธรรมดาทำอะไร และจะมาไกลได้ขนาดนี้ ตนไม่เคยเชื่อในความมหัศจรรย์ และปาฏิหาริย์เท่าไร แต่วันนี้ตนก็หวังลึกๆ ตั้งแต่ออกจากบ้านว่า จะมีเรื่องมหัศจรรย์หรือปาฏิหาริย์อะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไร
ตนคิดเสมอว่าเรามาไกลขึ้น และวันนี้ซึ่งเป็นวันที่เรารอมา 6 ปี ก็ได้รู้อะไรบางอย่าง ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ตลอดช่วงเวลาที่ทำการเมืองมา เราอาจจะเสียร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ที่ไม่ผ่านไป แต่ตนเชื่อว่าสิ่งที่ตนได้มาในใจคือ ความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้น และประสบการณ์ที่ตนได้เรียนรู้มา จากการทำกฎหมายฉบับนี้ ตนก็ต้องขออภัยกับทุกคนที่อยู่นอกสภา และได้ฝากความหวังไว้กับตน ซึ่งตนจะมาขอโทษด้วยตัวเอง
"เขาได้หวังว่าผมจะมาเป็นตัวแทน และแก้ไขกฎหมาย และก็ต้องกราบขออภัยที่ผมทำไม่สำเร็จ แม้จะเป็นตัวเลขเพียง 2 คะแนน แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างแพ้ก็คือ แพ้ แต่การแพ้แบบนี้มันคือ ความเจ็บปวด ผมก็อยากจะรับไว้เอง ยิ่งใกล้มันยิ่งเจ็บ ฉะนั้นก็ไม่เป็นไรขอเศร้าแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวจะกลับไปทบทวนตัวเอง ว่าเราได้ทำอะไรไม่เต็มที่ และจะพยายามร่างกฎกระทรวงที่เป็นของพรรคก้าวไกล ที่เราอยากเห็นว่ากฎกระทรวงมันควรจะเป็นอย่างไร
ซึ่งผมยอมรับว่าเสียเหลี่ยมทางการเมืองผู้เฒ่าในทำเนียบ ถ้าเรามีกฎกระทรวงที่อยากให้แก้ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ออกกฎกระทรวงเช่นนี้มา ฉะนั้นผมจะร่างเตรียมไว้เลย และจะเริ่มแคมเปญตั้งแต่เสร็จ และวันนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าทำไมต้องเลือกก้าวไกล ซึ่งทางการเลือกตั้งครั้งหน้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราก็แก้ได้ภายใน 2-3 วัน
ผมจึงมีความหวังว่าสุดท้ายก็ต้องไปทางนั้น และเชื่อว่าไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ผมจะได้รับเลือกหรือไม่ได้รับเลือกให้เป็นส.ส. แต่ก็จะมีเพื่อนๆ ก็จะมีอุดมการณ์ที่จะมาผลักดันเช่นกัน ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นส.ส. แต่สำหรับที่คนในพรรคมีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อประชาชน ทุกคนอยากใช้คำว่าผู้แทนราษฎรได้เต็มปาก จริงๆ เราไม่ได้เสียใจที่ไม่ผ่าน แต่เรารู้สึกว่าเราได้ทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ได้อย่างเต็มภาคภูมิแล้ว" เท่าพิภพ กล่าว
ทั้งนี้หลังจาก นายเท่าพิภพ พูดจบ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ตบเบาที่แขนของนายเท่าพิภพ และกล่าวว่า "ไม่เป็นไรทำเต็มที่แล้ว"
เมื่อถามว่า หลังการลงมติได้ตั้งข้อสังเกตถึงเสียงของพรรคฝ่ายค้านที่หายไปหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่พวกเราก็ทำเต็มที่แล้ว
จากนั้นนายเท่าพิภพได้กล่าวแซวผู้สื่อข่าวว่า "ทำไมวันนี้ดูเศร้าๆ จัง"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์