"จุรินทร์" สวน "อนุทิน"ทวงมารยาท แต่ไม่ยึดหลักปชต. ปัดรับใบสั่งขวางกัญชา
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สวน "อนุทิน"ทวงมารยาท ปมโหวตกัญชา แต่ไม่ยึดหลักประชาธิปไตย ย้ำหนุนกัญชาทางการแพทย์ไม่ใช้กัญชาเสรี ปัดรับใบสั่ง ส่วนปมเกทับปักธงส.ส.ใต้-พังงา เป็นเรื่องปกติ มั่นใจปชป.ได้ที่นั่งเพิ่ม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีที่มีการพาดพิงถึงพรรคจากการให้สัมภาษณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลว่า เรื่องกัญชานั้น ได้เรียนไปแล้วว่า จุดยืนประชาธิปัตย์ ก็คือเราสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่เราไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะเราเป็นห่วงอนาคตประเทศระยะยาว ว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสีย ถ้าเดินหน้าไปสู่กัญชาเสรี อันนี้คือความชัดเจนที่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาที่ตั้งคำถามว่าไปรับงานใครมาหรือไม่ รวมทั้งที่บอกว่าการให้ความเห็นแบบนี้ถือว่าไม่มีมารยาทนั้น
นายจุรินทร์กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นต้องย้อนกลับไปถามตัวเองมากกว่ากับคำถามที่ถามมา และที่สำคัญก็คือ ประชาธิปไตยนั้นต้องเคารพความเห็นต่าง และต้องไม่ไประรานคนที่เขามีความเห็นต่าง
“ประชาธิปัตย์ก็มีจุดยืนของประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นลูกจ้างบริษัทส่วนตัวของใคร ที่จะต้องมีใช้อำนาจบังคับว่าจะต้องมีความเห็นไปทางโน้นทางนี้ ประชาธิปัตย์ก็มีวิถีทางในการที่จะมีจุดยืนของตัวเองในฐานะพรรคการเมือง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตยก็คือ ต้องไม่ใช้อารมณ์ ต้องใช้หลักเหตุผล และรวมไปถึงการทำงานร่วมกันในรัฐบาลผสม ต้องเคารพความเห็นซึ่งกันและกัน
“ผมไม่คิดว่าจะไปกระทบกับพรรคการเมืองที่เขายึดถือวิถีประชาธิปไตย เพราะถ้าเคารพวิถีประชาธิปไตยก็ต้องเคารพความเห็นต่าง ไม่ไประรานคนที่เขาเห็นไม่ตรงกับเรา แล้วก็ต้องไม่ใช้อารมณ์ ถ้าเราถือหลักนี้ได้ การทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่มีปัญหา แน่นอนว่าจะให้เห็นไปในทางเดียวกันทั้งหมดทุกเรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะความเห็นทางการเมือง แม้แต่บริษัทเดียวกัน ถึงจะใช้อำนาจให้เขาเห็นไปทางใดทางหนึ่งก็ใช่ว่าทุกคนจะเห็นตรงกันได้ทั้งหมด ยิ่งทางการเมืองแล้ว ทุกคนก็ต้องเคารพประชาชน และต้องฟังเสียงประชาชน เรื่องนี้ประชาธิปัตย์ก็ฟังเสียงประชาชนเช่นเดียวกัน นอกจากเราจะมีจุดยืนของเรา ไม่ใช่ไปรับงานใครมา แต่ถ้าบอกว่าไปรับงานใครมา ก็รับงานมาจากประชาชน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวในที่สุด
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวถึงกรรีมีบางพรรคเกทับจำนวนที่นั่งส.ส.ของประชาธิปัตย์ว่า เป็นธรรมดา ที่ทุกภาคก็ต้องมีทุกพรรค ซึ่งจะต้องเข้าไปแข่งขันทางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติ ปักษ์ใต้ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่จะต้องมีหลายพรรคเข้าไปแข่งขัน ความจริงไม่ใช่เฉพาะเที่ยวนี้ เมื่อย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งเกือบทุกสมัย ก็จะมีหลายพรรคการเมืองที่ลงไปแข่งขัน แต่ประชาธิปัตย์ก็ยังผูกพันกับคนภาคใต้อย่างแน่นเหนียว
เช่นเดียวกับพรรคอื่นๆ เพียงแต่บางครั้งเราได้มากบ้าง น้อยบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่บางช่วงเวลาเราได้รับเสียงสนับสนุนมาก บางช่วงก็น้อยลงไปบ้าง
“เที่ยวหน้าผมมั่นใจว่าเราจะได้มากกว่าเดิมในพื้นที่ภาคใต้ มากกว่าการเลือกตั้งคราวที่แล้ว ส่วนพรรคไหนจะลงไปแข่งอย่างไรบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ ไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่ประชาธิปัตย์ลงอยู่พรรคเดียว ก็จะมีทุกพรรคที่ลงไปแข่งขันกัน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนที่มีพรรคการเมืองบางพรรคพยายามบลั้ฟว่าจะยึดหัวหาดที่จังหวัดพังงานั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะพังงา ก็มีหลายพรรคที่ลงไปแข่ง ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นของจังหวัดไหนในภาคใต้ทั้งสิ้น แม้ว่าทุกครั้งจะมีที่นั่งเดียว แล้วก็ปรับเป็น 2 ที่นั่ง แล้วกลับมาเหลือที่นั่งเดียว เที่ยวนี้ก็กลับไปเป็น 2 ที่นั่ง ก็มีหลายพรรคที่ลงไปแข่งเป็นปกติ บางช่วงลงไป 7 พรรค 8 พรรค 9 พรรคก็มี