"ตู่-หนู" สู่บิ๊กดีล "คนละครึ่ง" -"สร.1" เวอร์ชั่นรทสช.-ภท.
เมื่อพี่น้อง “2 ป.” ส่อแววสร้าง “ดาวคนละดวง” แยกทางกันเดิน “การเมือง” ช็อตต่อจากนี้ต้องจับตา โดยเฉพาะสมการนายกฯ "คนละครึ่ง" ในเวอร์ชั่น "ประยุทธ์-อนุทิน"
อย่างที่รู้กันว่า การเลือกตั้งรอบนี้ความฝันของ “ค่ายครูใหญ่” อย่างภูมิใจไทย ภายใต้บัญชาการของ “เนวิน ชิดชอบ” ไม่ใช่แค่การรวบรวมเสียงเพื่อจับมือ “พรรรคพี่พรรคน้อง” ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนครั้งที่ผ่านมา
หากแต่มีเดิมพันสูงลิบไปถึงเป็นพรรคเกิน 100 เพื่อชิงเกมเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ปูทางให้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ขึ้นแท่นสู่ “เบอร์หนึ่ง” ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ชี้ชัดด้วยรายชื่อ ส.ส.ล็อต 1-ล็อต 2 และล็อตถัดไปที่เตรียมย้ายพรรค ซึ่งปรากฎออกมาในช่วงที่ผ่านมา เสมือนเป็นการตอกย้ำ “พลังภูมิใจดูด” ที่ยังเดินเครื่องสาดกระสุนแบบไม่มีหยุดหย่อน
โดยเฉพาะบรรดา “ซุ้มบ้านใหญ่-ตระกูลดัง” อันเป็นเป้าหมายสำคัญ ที่ภูมิใจไทย จากเหนือจรดใต้ ไล่ตามภูมิภาค อาทิ “ศรีษะเกษ” ซึ่งเป็นจังหวัดแรกๆ ที่ “เสี่ยหนู” นำทีมเปิดตัวชูโรง พร้อมโชว์พลังดูด ด้วยการเปิดตัว “ว่าที่ผู้สมัคร” ประกาศกวาดยกจังหวัด แจก “2โควตารัฐมนตรี”
“พิจิตร” ที่ดึง 2 ตระกูลดังเมืองชาละวัน “ภัทรประสิทธิ์- ขจรประศาสน์” ประกาศกวาดยกจังหวัดแจก 1 โควตารัฐมนตรี รวมรายยิบย่อยเป็นรายจังหวัดทั่วทุกภูมิภาค ทั้งที่ประกาศตัวอย่างชัดเจน เตรียมย้ายพรรค หรือกลุ่ม 29 ส.ส.ที่ไปปราฎตัวกลางงานวันเกิด“ครูใหญ่เนวิน” เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่เตรียมย้ายพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า
รวมไปถึง ส.ส.กลุ่มก้อนล่าสุด ที่เตรียมเปิดตัวร่วมงานภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม “ส.ส.กทม.” พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง จักรพันธ์ พรนิมิตร กษิดิ์เดช ชุติมันต์ และพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์
นอกจากนี้ ยังมี พี่น้อง “เมืองโอ่ง” ปารีณา ไกรคุปต์ ที่ติดโทษแบนการเมืองตลอดชีวิต เตรียมปั้นพี่ชาย “สีหเดช ไกรคุปต์” ซึ่งอกหักจากบ้านเก่า หลังจากพลังประชารัฐไม่ส่งลงเลือกตั้งซ่อมราชบุรี จึงเตรียมเอาคืน ด้วยการย้ายค่าย พร้อมลงชิงส.ส.ในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
ยังไม่นับตระกูลดังเมือง “สาครบุรี” คือ “อาย” อนุสรี ทับสุวรรณ ที่ทิ้งค่ายลุงกำนัน ย้ายเข้าชายคารั้วสีน้ำเงิน
ไม่เว้นแม้แต่ “กาญจนบุรี” ซึ่งปัจจุบันภูมิใจไทยมี ส.ส.1 คน คือ “กุ๊ก” ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.เขต3 โดยมี “กำนันบอย” ปารเมศ โพธารากุล อดีต ส.ส.เขต 3 ที่ทิ้งค่ายสีฟ้า ย้ายเข้าสู่ชายคาน้ำเงิน เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เวลานี้อยู่ในฐานะว่าที่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา “มาดามแหม่ม” มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์อีกด้วย
ยังไม่นับรวมในส่วนของ “สมเกียรติ วอนเพียร” ส.ส.เขต 2 พลังประชารัฐ ที่เป็น 1ใน ส.ส.ที่ไปร่วมงานวันเกิดเนวิน
ศึกเมืองกาญจน์รอบนี้ “ส.ส.กุ๊ก” และ “กำนันบอย”ยังผนึกกันในการชิงพื้นที่ หวังกวาดผู้แทนเมืองกาญจน์ "ยกจังหวัด" ไปฝากครูใหญ่และหัวหน้าห้องให้จงได้
ฉะนั้น ต้องจับตาไปที่ 2พี่น้อง "โพธิพิพิธ" ทั้งธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ และอัฏฐพล ส.ส.กาญจนบุรี รวมถึงทีมท้องถิ่น
รวมไปถึง “ซ้อคนดัง” เมืองกาญจน์ ซึ่งเป็น ส.ส.สายอดีตหัวหน้าพรรคสีฟ้าที่ปรากฎข่าวร่วมวงกินข้าวอนุทิน ซ้อส่งสัญญาณชัดเจนเตรียมย้ายพรรค ก่อนหน้ามีข่าวจะไม่ร่วมงานขั้วตรงข้าม
ทว่ายามนี้อาจต้องคิดใหม่อีกรอบ เพราะอย่างที่รู้กันว่า ยุทธศาสตร์ภูมิใจไทยในการดึง “ซุ้มบ้านใหญ่” มีเดิมพันคือ กวาดยกจังหวัดแจกโควตารัฐมนตรี พ่วง1ปาร์ตี้ลิสต์
ทว่า “พลังภูมิใจดูด” ที่เกิดขึ้นยามนี้ ไม่เพียงเป็นการตอกย้ำ “เกมชิงไหวชิงพริบ” ในการเป็นแกนนำจัดตั้งบาลเท่านั้น หากแต่มีการมองข้ามช็อตไปถึง “บิ๊กดีล” สำคัญ ในการจับขั้วทางการเมือง ในจังหวะที่ความสัมพันธ์ “พี่น้อง 2 ป.” ไม่เหมือนเดิมสมการหลังจากนี้ก็อาจเปลี่ยนไปเป็นได้
สอดคล้องกับความเคลื่อนไหว “พลพรรคคนรักบิ๊กตู่” อย่าง “รวมไทยสร้างชาติ” ของ “เดอะตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่เตรียมเปิดตัวบิ๊กเนมระดับวีไอพีในวันที่ 21 พ.ย. ว่ากันว่า ยามนี้เร่งเดินสายหารือทั้ง “บิ๊กทหารคนดัง” นักธุรกิจสายการธนาคาร รวมถึง “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.
หลักใหญ่ใจความคือ การการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ภายใต้เงื่อนไขมี ส.ส.เกิน 25 คน ตามบทบัญญัติว่าด้วยการเสนอชื่อนายกฯ
ลึกไปกว่านั้น ยังมีการพูดถึงช่วง “รอยต่อ” กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นวาระ 2 ปี ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีการพูดถึงชื่อของ “เสี่ยหนู” ในการจับมือกันตั้งรัฐบาล เพื่อรวบรวมเสียงเกิน 100 เพื่อดัน “นายกฯคนละครึ่ง” ในเวอร์ชั่น “ประยุทธ์-อนุทิน”
สอดคล้องกับที่มีการประเมินว่า เกมๆนี้รทสช.อาจจะ "ดันตู่-ไม่ชูป้อม"
ฉะนั้น ต้องไปลุ้นกันที่ พล.อ.ประยุทธ์ อาจมีการตัดสินใจครั้งสำคัญ หลังการประชุมเอเปก
โดยเฉพาะในยามที่พี่น้อง “2 ป.” ส่อแววสร้าง “ดาวคนละดวง” แยกทางกันเดินด้วยแล้ว “สมการการเมือง” หลังจากนี้ จึงน่าจับตา!