ดีเดย์ "ประยุทธ์" ขยับ ต้น ธ.ค. "รทสช.-พปชร." แยกพี่ แยกน้อง
เมื่อเทียบฟอร์มระหว่าง2พรรค และ 2พี่น้อง ก็พอเห็นทิศทางชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าไปคนละทาง “รวมไทยสร้างชาติ” กำลังสร้างโมเมนตั้มเพื่อการไปต่อของ ป.ประยุทธ์ ส่วน “พลังประชารัฐ” ก็ยังดิ้นรนฝ่ากระแสขาลง ที่กำลังระส่ำ อยู่ในภาวะแพใกล้แตกเต็มทีก็ไม่ปาน
ความเคลื่อนไหวในทางลับของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเครือข่ายค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าจะโคจรมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ
เท่ากับว่าเส้นทางทางการเมืองของ ป.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะกลายเป็นเส้นขนานในที่สุด
สถานการณ์ตอนนี้ ป.ประยุทธ์ อยู่ระหว่างจัดทัพ ระดมขุนพลจากพลังประชารัฐ มาอยู่กันที่รวมไทยสร้างชาติและจะกลายเป็นว่า คนที่มาอยู่รวมไทยสร้างชาติ คือคนที่ไม่เอา ป.ป้อม ส่วนคนที่อยู่ พลังประชารัฐ ก็คือคนที่ไม่เอา ป.ประยุทธ์
ล่าสุด ก๊วนธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เคยออกไปทำพรรคเศรษฐกิจไทย ก็กำลังจะกลับบ้านเก่าพลังประชารัฐ
ส่วนส.ส.พลังประชารัฐ ที่อยู่ข้าง ป.ประยุทธ์ บางส่วนตอนนี้แสดงตัวตอบรับกับพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว และจะตามมาอีกเป็นพรวน หากหัวขบวนตีปี๊บเปิดตัวชัดเจน
ช่วงดีเดย์ที่ต้องรอจับตาคือต้นเดือนธ.ค. ที่จะถึงนี้ ว่ากันว่ามีการเตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่า จะให้ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ขยับด้วยการส่งเทียบเชิญ ป.ประยุทธ์ ให้พิจารณาตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรค
ระหว่างนี้จึงยังมีเวลาสำหรับ ป.ประยุทธ์ ที่ดูเหมือนกำลังชื่นชมกับผลงานจากการเป็นเจ้าภาพเอเปคไปพลาง ก่อนจะลุยการเมืองต่อเต็มตัว
ขณะที่ความเคลื่อนไหวในพลังประชารัฐ ถูกผู้ใหญ่เช็คชื่อกันเป็นแถว ใครจะอยู่ใครจะไป ซึ่งก็ไม่มีอะไรต้องแคร์ จะได้หาผู้สมัครส.ส.ลงเลือกตั้งในเขตนั้นแทน เรียกว่าตอนนี้ พลังประชารัฐเองก็เตรียมตัวไม่แพ้กัน
โดย ป.ป้อม เพิ่งแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยมี ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธาน พร้อมกับส.ส.ของพรรคจำนวนหนึ่งร่วมเป็นกรรมการ
เรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในพรรคว่า แกนนำบางคนจัดการยัดชื่อส.ส.ของพรรค ให้ครบทุกภูมิภาค เพื่อต้องการให้ ป.ป้อม เห็นว่าให้ความสำคัญอย่างทั่วถึง ทั้งที่บางคนที่มีชื่อยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยได้รับการประสานใดๆ มาก่อน
แถมบางคนที่มีชื่อเป็นทีมยุทธศาสตร์หาเสียงชุดนี้ ก็เป็นที่รู้กันดีว่า เตรียมเก็บข้าวของออกจากพลังประชารัฐแล้ว
ยังไม่นับรวมกับการแย่งชิงเค้กก้อนโตในเรื่องงานประชาสัมพันธ์ของพรรค ที่ตัดแข้งตัดขากันอยู่ในเวลานี้ ปรากฎการณ์ในพลังประชารัฐ จึงก้าวไม่พ้นการแก่งแย่งชิงดี และเกมหักเหลี่ยมเฉือนคม เคยเป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น
เมื่อเทียบฟอร์มระหว่าง2พรรค และ 2พี่น้อง ก็พอเห็นทิศทางชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าไปคนละทาง รวมไทยสร้างชาติ กำลังสร้างโมเมนตั้มเพื่อการไปต่อของ ป.ประยุทธ์ ส่วน พลังประชารัฐ ก็ยังดิ้นรนฝ่ากระแสขาลง ที่กำลังระส่ำ อยู่ในภาวะแพใกล้แตกเต็มทีก็ไม่ปาน