“พิธา” ควง “ธนาธร” เปิดนโยบายท้องถิ่น เลิกส่วนภูมิภาค กระจายอำนาจเต็มสูบ
“พิธา” ควง “ธนาธร” เปิดนโยบาย “ก้าวไกล” ถึงคิว “ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า” กางโรดแมปกระจายอำนาจเต็มสูบ เพิ่มงบท้องถิ่น 2 แสนล้านบาท/ปีภายใน 4 ปี จัดประชามติยกเลิกส่วนภูมิภาค-เลือก “นายกจังหวัด” ทั่วประเทศ ยันข้าราชการไม่ตกงาน-ไม่เสียสิทธิประโยชน์
เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2565 ที่อาคารอนาคตใหม่ ชั้น 7 พรรคก้าวไกลแถลงนโยบาย “ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า” ซึ่งเป็นชุดนโยบายที่ 3 ต่อจาก “การเมืองไทยก้าวหน้า” และ “สวัสดิการไทยก้าวหน้า” โดยเป็นการแถลงร่วมกับคณะก้าวหน้า ที่นำเสนอผลงานการทำงานในระดับท้องถิ่นในรอบปีที่ผ่านมา
โดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า การกระจายอำนาจเป็นนโยบายหลักตั้งแต่ครั้งพรรคอนาคตใหม่ โดยคณะก้าวหน้าก็สานต่อภารกิจด้วยการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่น เหตุผลที่เราผลักดันเรื่องนี้ เพราะต้องการให้ประเทศเกิดการขับเคลื่อน 2 ทางควบคู่กัน คือการขับเคลื่อนจาก “ล่างขึ้นบน” ผ่านการสร้างผู้บริหารท้องถิ่นที่มีศักยภาพ พิสูจน์ว่าท้องถิ่นพร้อมบริหาร พร้อมพัฒนาเมืองของตัวเอง โดยจากการทำงานของ อปท. คณะก้าวหน้าภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ เราสามารถแก้ปัญหาปากท้องและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ได้หลายเรื่อง เช่น น้ำประปาดื่มได้ กล่อง baby box ให้เด็กแรกเกิด ระบบจัดการขยะที่มีมาตรฐานเทียบเท่าประเทศญี่ปุ่น การสร้างงานและรายได้ผ่านการท่องเที่ยวชุมชน
นายธนาธร กล่าวอีกว่า อีกทางหนึ่งคือการขับเคลื่อนจาก “บนลงล่าง” ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและแก้ไขกฎหมายเพื่อปลดล็อกข้อจำกัดในการทำงานของท้องถิ่น ซึ่งเป็นที่มาของการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ “ปลดล็อกท้องถิ่น” ที่มีประชาชนทั่วประเทศร่วมลงชื่อกว่า 76,591 คน และจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ โดยเราหวังว่าวันหนึ่งการขับเคลื่อนทั้ง 2 ทางจะมาบรรจบกันที่เส้นชัย คือการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ก้าวหน้า หลุดพ้นจากประเทศกำลังพัฒนา
ส่วน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาความเจริญและอำนาจในการตัดสินใจส่วนใหญ่ของประเทศไทยรวมศูนย์อยู่ที่กรุงเทพฯ และรัฐส่วนกลาง ขนาดเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ใหญ่กว่าจังหวัดอันดับ 2 อย่างชลบุรีถึง 5 เท่า ในขณะที่ส่วนกลางมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องการใช้งบสูงถึง 80% ของงบประมาณทั้งหมด พรรคก้าวไกลจึงมีเป้าหมายที่จะปลดล็อกความกระจุกตัวของอำนาจและความเจริญ ด้วยการทำให้ประชาชนทุกจังหวัดมีอำนาจและทรัพยากรเพียงพอในการกำหนดอนาคตของตัวเอง
“หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมพรรคก้าวไกลพูดแต่เรื่องกระจายอำนาจ ทำไมไม่พูดเรื่องปากท้องเฉพาะหน้าของประชาชน แต่ผมต้องบอกว่านโยบายกระจายอำนาจคือนโยบายเศรษฐกิจ คือเรื่องปากท้อง เพราะการกระจายอำนาจจะนำไปสู่การระเบิดพลังทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทำให้งบประมาณถูกใช้อย่างถูกจุดโดยคนที่ใกล้ชิดกับปัญหาและรู้ปัญหาจริง เพื่อยกระดับบริการสาธารณะ และสร้างงานใหม่ๆในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ” นายพิธา กล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้หยิบยกการศึกษาขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เพื่อยืนยันถึงประโยชน์ของการกระจายอำนาจที่ถูกพิสูจน์ให้เห็นในหลายประเทศทั่วโลก การกระจายอำนาจจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตและลดความเหลื่อมล้ำของรายได้ต่อหัวในแต่ละภูมิภาค ส่วนที่บางคนเชื่อว่ายิ่งกระจายอำนาจก็ยิ่งกระจายคอร์รัปชัน ผลการศึกษาในต่างประเทศกลับพบว่าหากทำควบคู่กับการเพิ่มเสรีภาพในการแสดงออกและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบรัฐบาล การกระจายอำนาจกลับทำให้คอร์รัปชันลดลง
นายพิธา กล่าวด้วยว่า นโยบาย “ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า” จะพลิกประเทศทั้งในระยะสั้น-กลาง-ยาว โดยหากเป็นรัฐบาล สิ่งที่จะทำใน 100 วันแรกคือการยกเลิกกฎระเบียบและคำสั่ง คสช. ทั้งหมดที่ล็อกคอ-ล้วงลูกท้องถิ่น ถัดมาภายใน 1 ปี คือการทำประชามติว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับการเลือกตั้ง “นายกจังหวัด” ทุกจังหวัด และยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค โดยที่รับประกันว่าไม่มีใครตกงานหรือเสียประโยชน์ และในทุกๆปี รัฐบาลก้าวไกลจะค่อยๆ กระจายงบประมาณให้ท้องถิ่นในการจัดทำบริการสาธารณะและพัฒนาพื้นที่ โดยภายใน 4 ปี ท้องถิ่นทั่วประเทศจะได้งบเพิ่มขึ้น 200,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นการเพิ่มงบ อบจ. ละ 250 ล้าน เมืองละ 100 ล้าน ตำบลละ 50 ล้านบาท ต่อปี โดยเฉลี่ย
ขณะที่นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นโยบายทุกจังหวัดไทยก้าวหน้าประกอบด้วย 4 ข้อสำคัญ ได้แก่
- การวางโรดแมปไปสู่การเลือกตั้ง “นายกจังหวัด” ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้บริหารสูงสุดในจังหวัดแทนผู้ว่าราชการที่มาจากการแต่งตั้ง
- การเพิ่มงบจังหวัดจัดการตนเอง
- การปลดล็อกกฎระเบียบให้ท้องถิ่นจัดทำบริการสาธารณะและแก้ปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทั้งหมด
- การเพิ่มอำนาจประชาชนในการตรวจสอบการทำงานของท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน
นอกจากประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ วรภพกล่าวว่าพรรคก้าวไกลขอยืนยันกับข้าราชการทุกคนที่สังกัดส่วนภูมิภาคและสังกัดส่วนท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ว่า “ทุกตำแหน่งแห่งหนจะยังคงอยู่ ทุกสิทธิประโยชน์จะยังคงเดิม และทุกความก้าวหน้าจะยังคงมี” โดยการปฏิรูประบบราชการครั้งนี้ เป็นเพียงการเปลี่ยนการทำงานของข้าราชการบางส่วนในแต่ละพื้นที่ จากเดิมที่ทำงานแยกกันภายใต้อธิบดีกรมหรือปลัดกระทรวงที่อยู่ที่กรุงเทพฯ เปลี่ยนเป็นทำงานร่วมกันภายใต้ผู้บริหารท้องถิ่นที่ประชาชนเลือกในพื้นที่โดยตรง โดยจะเป็นการออกแบบระบบราชการที่ทำให้ศักดิ์และสิทธิของข้าราชการทุกสังกัดเท่าเทียมกัน มีกลไกรองรับการถ่ายโอนโยกย้ายระหว่างส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่น
“ผมเชื่ออย่างสุดใจ ว่าภารกิจนี้เป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้ทุกจังหวัดในประเทศไทยก้าวหน้า ถ้าประชาชนเป็นคนเลือกนายกจังหวัดแล้ว จะไม่มีรัฐบาลไหนเปลี่ยนกลับมาให้มีผู้บริหารจังหวัดที่มาจากการแต่งตั้งได้อีก นี่จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ที่ไม่มีวันย้อนกลับได้” นายวรภพ กล่าว
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การกระจายอำนาจจะทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น ตั้งแต่ตื่นเช้าจนเข้านอน เช่น ในช่วงเช้า คนภาคเหนือจะไม่ต้องตื่นมาสูดอากาศที่เป็นมลพิษ เพราะปัญหาไฟป่าจะได้รับการจัดการที่ดีขึ้น อาสาสมัครป้องกันไฟป่าจะได้รับการฝึกอบรม มีอุปกรณ์และเครื่องมือที่เพียงพอ ลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิต ในช่วงกลางวัน คนภูเก็ตหรือคนขอนแก่น อาจได้ใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่ผลักดันมายาวนาน เช่น รถราง รถไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะเงินไม่พอและไม่มีอำนาจตัดสินใจ ในช่วงเย็น ประชาชนจะมีสวนสาธารณะใกล้บ้านสำหรับพักผ่อนและเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกันของคนทุกกลุ่ม แต่ที่ผ่านมาเทศบาลไม่สามารถใช้งบประมาณด้านวัฒนธรรมเพื่อจัดงานคริสต์มาสได้ เพราะส่วนกลางกำหนดให้จัดได้แค่งานวัฒนธรรมไทย และช่วงค่ำ ประชาชนจะออกไปสังสรรค์ใกล้บ้านได้สะดวก หากกระจายอำนาจให้นายกจังหวัดจัดการผังเมืองได้ ไม่ถูกจำกัดโดยการจัดโซนนิ่งของรัฐส่วนกลาง ที่บางครั้งทำให้สถานที่สังสรรค์มีที่ตั้งอยู่ห่างไกล ดังนั้น จากตัวอย่างทั้งหมดนี้ เชื่อว่าการกระจายอำนาจจะทำให้ชีวิตของคนไทยดีขึ้น รัฐบาลท้องถิ่นใกล้ชิดประชาชน และนโยบายยึดโยงพื้นที่
สำหรับชุดนโยบาย “ทุกจังหวัดไทยไทยก้าวหน้า” ของพรรคก้าวไกล แบ่งเป็น 4 ด้าน มีทั้งหมด 13 นโยบาย ได้แก่
- “ผู้บริหารจังหวัดเรา เราเลือกเอง” ประกอบด้วย
- ประชามติยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ไม่มีใครตกงาน-เสียประโยชน์
- เลือกตั้งนายกจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
- เลือกตั้งนายกเขต ทุกเขตใน กทม.
- ข้าราชการทุกสังกัด ศักดิ์และสิทธิเท่ากัน โยกย้ายก้าวหน้าได้
- “งบจังหวัดเรา เราตัดสินใจเอง” ประกอบด้วย
- เพิ่มงบจังหวัดจัดการตนเองทุกปี ได้แก่
- ทั่วประเทศ 200,000 ล้านบาทต่อปี ภายใน 4 ปี
- จังหวัดละ 250 ล้านบาทต่อปี ภายใน 4 ปี
- เมืองละ 100 ล้านบาทต่อปี ภายใน 4 ปี
- ตำบลละ 20 ล้านบาทต่อปี ภายใน 4 ปี
- ปรับสูตรกระจายงบให้เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างพื้นที่
- ท้องถิ่นมีช่องทางหารายได้ใหม่ กู้เงิน-ออกพันธบัตร-ร่วมทุน
- “บริการสาธารณะในพื้นที่เรา เราจัดการเอง” ประกอบด้วย
- บริการสาธารณะถูก-เร็ว-ดี ท้องถิ่นจัดทำได้ทั้งหมด ยกเว้น ทหาร-ศาล-เงินตรา
- ถ่ายโอน ถนน-คูคลอง-แหล่งน้ำ-ขนส่ง-สิ่งแวดล้อม-พิสูจน์สิทธิที่ดิน-โรงงาน-โรงแรม-สถานบริการ
- ยกเลิกกฎระเบียบและคำสั่ง คสช. ที่ล็อกคอ-ล้วงลูกท้องถิ่น ภายใน 100 วัน
- “ท้องถิ่นเรา เราร่วมตรวจสอบได้เอง” ประกอบด้วย
- ท้องถิ่นโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลงบประมาณทุกบาท-จัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอน
- ประชุมสภาพลเมือง ทุกคนมีส่วนร่วม ทุกท้องถิ่น ทุกไตรมาส
- ประชาชนเข้าชื่อออนไลน์ เสนอโครงการ-ข้อบัญญัติ ถอดถอนท้องถิ่นได้