"มทภ.4" กำชับแผนรักษาความปลอดภัย 14 จังหวัดใต้ หลังเหตุระเบิดรถไฟสินค้า
"มทภ.4" ปูแผนรักษาความปลอดภัย 14 จังหวัดใต้ หลังเหตุบึ้มรถไฟส่งสินค้า จ.สงขลา เชื่อฝีมือผู้ก่อความไม่สงบ ทำลายเศรษฐกิจ ประเมินเลือกตั้งปีหน้าต้องคุมเข้มการก่อเหตุ แม้ขัดแย้งแต่อย่ากระทบภาพลักษณ์
พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงเหตุคนร้ายระเบิดรถไฟบรรทุกสินค้า บริเวณ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ว่า ขณะนี้ได้มีการเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว และเตรียมส่งมอบให้กับตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบชนิดของระเบิด เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ต้องการก่อความวุ่นวายทำลายเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งนี้ตนได้สั่งการไปในทุกพื้นที่ ทุกหน่วยโดยเฉพาะสายงานใน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ ทหาร ให้เข้มงวดการดูแลและควบคุมให้ดีในจุดเพ่งเล็งในทุกพื้นที่ เช่น สนามบิน สถานที่ราชการอนุสาวรีย์ สถานีรถไฟ
"เราได้เตรียมแผนมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว เพราะช่วงปีใหม่ มีหลายเทศกาล ได้มีการประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเดือนธันวาคมลากยาวไปจนถึงปีใหม่ ต้องเข้มงวดอย่างสูงสุดโดยเฉพาะ เมืองท่องเที่ยวในทุกจังหวัดเช่นหาดใหญ่ จ.สงชลา จ.ภูเก็ต สมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้กำลังทุกส่วนทั้งทหารตำรวจและฝ่ายปกครองรวมถึงภาคประชาชนบูรณาการงานร่วมกัน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เข้ามาในพื้นที่ให้เป็นอย่างดี"พล.ท.ศานติ กล่าว
เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วง 14 จังหวัดภาคใต้ใช่หรือไม่ ไม่ได้เน้นเฉพาะ 3 จชต. พล.ท.ศานติ กล่าวย้ำว่า ได้มีมาตรการที่เข้มงวดในทุกๆจังหวัด ผู้บัญชาการภูธรตำรวจภาค 8 ภาค 9 ผู้ว่าทุกจังหวัด ได้ประชุมวางแผนไว้เรียบร้อยแล้ว และในเร็ววันนี้จะมีการประชุมภาพรวมอีกครั้งหนึ่งในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยและความมั่นคง
เมื่อถามว่า เราพยายามจำกัดก่อเหตุอยู่ใน 3 จตช.ไม่ให้ลุลามพื้นที่จังหวัดอื่นๆใช่หรือไม่ พล.ท. ศานติ กล่าวว่า การก่อเหตุของผู้ก่อความไม่สงบเราไม่สามารถจำกัดพื้นที่ได้ว่าจะให้ก่อเหตุที่ไหน แต่ในทุกพื้นที่เรามีการดูแลและควบคุมเป็นอย่างดี เราสามารถป้องกันได้ โดยขอความร่วมมือประชาชนหากเห็นสิ่งผิดปกติให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่าในปี 66 ที่มีการเลือกตั้ง การแข่งขันทางการเมืองในภาคใต้มีสูงจะเป็นปัจจัยเกิดความวุ่นวายหรือไม่ พล.ท.ศานติ กล่าวว่า ตนไม่คิดอย่างนั้นเพราะว่าการเลือกตั้งมีมาตลอด การลงพื้นที่หาเสียงของนักการเมือง หรือความขัดแย้งของนักการเมือง ตนบอกทุกภาคส่วนว่า นักการเมืองจะขัดแย้งกันอย่างไร แต่อย่าให้มีการก่อเหตุในพื้นที่โดยเด็ดขาด
"คุณจะขัดแย้งในเรื่องการเมือง มีการแข่งขันกันอย่างไร ก็ขอให้เป็นเรื่องของการเมืองไป อย่าใช้กำลังและอาวุธเข้าต่อสู้ซึ่งกันและกัน เพราะจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแต่ละจังหวัดประชาชนจะเดือดร้อนในสิ่งที่พวกคุณกระทำกัน"พล.ท.ศานติ กล่าว.