"ครูหยุย" หวัง "ส.ส." เห็นด้วย ร่างกม.กยศ. คิดดอกเบี้ย1%-ค่าปรับ0.5%
"ครูหยุย"ระบุ วุฒิสภาพิจารณาร่างกม.กยศ. 6 ธ.ค. นี้ หลังกมธ.เร่งงาน เผยกมธ.ให้คิดดอกเบี้ย-ค่าปรับ พร้อมเพิ่มอำนาจ กก.กยศ. ลดหย่อน-ช่วยผู้กู้ได้หากมีเหตุจำเป็น
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (พ.ร.บ.กยศ.) วุฒิสภา กล่าวว่า ทางกมธ. ได้พิจารณาเนื้อหาร่างพ.ร.บ.กยศ.แล้วเสร็จแล้ว และเตรียมให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาในวาระสองและวาระสาม วันที่ 6 ธันวาคม นี้ โดยสาระสำคัญของเนื้อหา คือ ทางกมธ.เห็นด้วยตามร่างที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอคือ การตัดในส่วนของการค้ำประกันออก เพราะจากการรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่าเป็นส่วนที่เพิ่มภาระ ขณะที่ประเด็นที่กมธ. เห็นต่างจากร่างของสภาฯ คือ การตัดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับผิดนัดชำระ
นายวัลลภ กล่าวว่าดังนั้นกมธ.วุฒิสภา จึงแก้ไขให้การชำระเงินคืนกองทุนต้องมีกอกเบี้ย ในอัตราไม่เกิน 1% ต่อปี พร้อมกำหนดห้ามคิดดอกเบี้ยทบต้น และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้กู้ที่มีประวัติชำระเงินคืนดี จึงกำหนดให้ กรรมการพิจารณาลดหย่อนดอกเบี้ยให้แก้ผู้กู้ยืมเงินที่มีประวัติชำระเงินคืนดีต่อเนื่อง หรือชำระคืนกองทุนครบถ้วน หรือกรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควรอื่นๆ นอกจากนั้นแล้วยังกำหนดรายละเอียดของการขยายเวลาปลอดหนี้ จากเดิมกฎหมายกำหนดระยะ 2 ปี กรณีที่มีเหตุจำเป็นและสมควรก็ได้
นายวัลลภ กล่าวด้วยว่าสำหรับค่าปรับผิดนัดชำระนั้น กำหนดให้เก็บเงินเพิ่มไม่เกิน 0.5% ต่อปี แต่ได้ให้อำนาจกรรมการพิจารณายกเว้นหรือลดหย่อนตามที่เห็นสมควร นอกจากนั้นแล้วยังกำหนดรายละเอียดของการกำหนดกรอบชำระหนี้จากเดิม 15 ปี ไปเป็นตามหตุจำเป็นและสมควร เพราะจากการรับฟังความเห็นของผู้กู้ กยศ. พบว่าบางราย ไม่สามารถหางานทำได้หลังจบการศึกษา และกมธ.เห็นว่าเพื่อให้เกิดประโยชน์ ยังกำหนดให้ กรรมการ กยศ.มีหน้าที่และอำนาจที่เพิ่มขึ้นใหม่ คือ การกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินให้มีงานทำและสามารถชำระเงินคืนกองทุนได้ โดยให้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชนและสถานศึกษาที่เข้าร่วม
“ผมกังวลว่าร่างกฎหมายนี้จะเสร็จไม่ทันสภาฯ จึงพยายามเร่งการทำงาน หลังจากที่วุฒิสภาพิจารณาในวันที่ 6 ธันวาคม หากเห็นด้วยกับการแก้ไขของกรรมาธิการ ต้องส่งให้ สภาพิจารณาหากสภาไม่เห็นด้วยกับที่วุฒิสภาแก้ไข จำเป็นต้องตั้งกรรมาธิการร่วมฝ่ายละ 10 คน เพื่อพิจารณาเนื้อหา หากสภาฯจะยืนยันตามร่างที่ผ่านวาระสามในชั้นสภาฯ สามารถทำได้ โดยใช้เสียงโหวตข้างมากในกรรมาธิการร่วม ทั้งนี้ผมเชื่อว่าเนื้อหาที่กรรมาธิการของวุฒิสภาแก้ไขนั้นทำได้ดี เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย หวังว่าสภาฯจะเห็นด้วย” นายวัลลภ กล่าว