เข้าข่าย 5 ประโยค! ร้อง กกต.ยุบ “เพื่อไทย” ปม “ทักษิณ” ครอบงำทำค่าแรงขั้นต่ำ
“ศรีสุวรรณ” ลุยร้อง กกต.ชงยุบพรรค “เพื่อไทย” อ้าง “ทักษิณ” ครอบงำจัดทำโนยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท แถมพูดแก้ต่างให้ เผยแกะเทปละเอียดเจอเข้าข่าย 5 ประโยค เชื่อมั่นในหลักฐาน มีน้ำหนักพอสมควร
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นร้องเรียนต่อ กกต. กรณีนายทักษิณ ชินวัตร หรือ “โทนี่ วูดซัม” ไลฟ์สดพูดคุยในกลุ่ม CARE คิดเคลื่อนไทย ชี้แจงนโยบายขึ้นค่าแรง 600 บาท ของพรรคเพื่อไทย โดยเห็นว่ากรณีเช่นนี้อาจเข้าข่ายเป็นการชี้นำ ครอบงำกิจกรรมหรือนโยบายของพรรคการเมือง ตาม มาตรา 28 และมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่ พรรคการเมืองที่ปล่อยให้บุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกครอบงำ ชี้นำ อาจมีความผิดตาม มาตรา 92(3) ถึงขั้น กกต. เสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้น ๆ ได้
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีพรรคเพื่อไทยได้แถลงนโยบาย เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 65 โดยเฉพาะนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และปรับฐานเงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรีเป็น 25,000 บาท ภายในปี 2570 ถือเป็นนโยบายที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก ทั้งเห็นด้วยและคัดค้าน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดว่านโยบายแบบนี้จะหาเงินมาจากที่ไหน แต่ยังไม่ทันข้ามคืน นายทักษิณได้ออกมาพูดในกลุ่ม CARE เสนอประเด็นในเชิงนโยบายเพื่ออธิบาย หรือแก้ต่างเรื่องของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า การที่นายทักษิณออกมาพูดนี้ ทางสมาคมฯ เข้าใจว่านายทักษิณกำลังจะเชื่อมโยงให้เห็นว่าการกำหนดนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น แท้จริงแล้วมีพื้นฐานความคิดมาจากนายทักษิณนั้นเอง และเชื่อมโยงมาจากพรรคไทยรักไทย ฉะนั้นการที่นายทักษิณออกมาพูดมาแก้ต่างในเรื่องของประเด็นของพรรคเพื่อไทยนั้น ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 28 และมาตรา 29 มีกำหนดเป็นข้อห้ามไว้อย่างชัดเจน มาตรา 28 กำหนดไว้ว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือดำเนินการตามบุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกพรรค ที่จะมาชี้นำ ควบคุม หรือครอบงำกิจกรรมของพรรคการเมืองนั้นไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ส่วนมาตรา 29 นั้น กำหนดว่า ห้ามบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองจะไปดำเนินการควบคุม ชี้นำ หรือครอบงำ กิจกรรมของพรรคการเมืองอื่น
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า การที่นายทักษิณพยายามจะเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทย มีภาพลักษณ์ที่ทำงานเพื่อประชาชนมาอย่างดีตลอด แต่การที่มีบุคคลอื่นอย่างนายทักษิณ ที่พยายามพูดคุยหรือตั้งประเด็นที่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยนั้น ก็น่าเข้าข่ายเป็นบุคคลอื่นที่มิใช่สมาชิกพรรคเข้ามาชี้นำ ครอบงำพรรคหรือไม่ เรื่องนี้เราจึงมาร้องต่อ กกต. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัยว่าพฤติการณ์และการกระทำอย่างนี้เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่ ถ้าเข้าข่ายนั้น ก็จะเชื่อมโยงไปถึงมาตรา 92(3) ซึ่ง กกต. มีอำนาจที่จะเสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุบพรรคได้ ส่วนผู้ที่จะมีความผิดตามกฎหมายของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีโทษจำคุกไม่เกิด 10 ปีปรับไม่เกิน 200,000 บาท และตัดสิทธิทางการเมืองต่อไปด้วย
เมื่อถามว่า มีประโยคไหนที่ฟังแล้วมองว่านายทักษิณเข้าข่ายว่าครอบงำพรรค นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตนถอดเทปออกมาแล้วฟังมี 5 ประโยคที่เข้าข่าย แต่เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนตัดสิน ต้องเป็น กกต. เป็นผู้วินิจฉัย ตนเชื่อมั่นในหลักฐานของตัวเองทั้งคลิปวิดีโอที่นายทักษิณ พูดนำเสนอ เชื่อว่าจะมีน้ำหนักอยู่พอสมควร