“ประธาน ปปง.” ลาออกหลังถูกโยงพัวพันทุนจีนสีเทา

“ประธาน ปปง.” ลาออกหลังถูกโยงพัวพันทุนจีนสีเทา

“ชูวิทย์”โพสต์ “พล.ต.ต.ปิยะพันธ์” ลาออกพ้นเก้าอี้ประธาน ปปง. หลังถูก “วัชระ” ร้องประธานวุฒิสภาตรวจสอบพัวพันกลุ่มทุนจีสีเทาหรือไม่

ภายหลังนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ถึงศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ขอให้สอบสวนพล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ประธานกรรมการ/กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)  และนายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ ปปง. รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. ว่ามีการกระทำที่ส่อว่าผิดกฎหมายหรือจริยธรรม ให้การช่วยเหลือกลุ่มทุนจีน สีเทาหรือไม่

โดยในหนังสือมีรายละเอียด กรณีหนังสือร้องเรียนข้าราชการสำนักงาน ปปง. จำนวน 6 ประเด็นมีมูลความจริงหรือไม่ 1.เช่น กลุ่มจีนสีเทาไปพบประธานกรรมการ/กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ปปง. ที่ห้องทำงานชั้น 3 หลังเวลาราชการจนถึงตอนค่ำ มีการพบปะสังสรรค์กันจริงหรือไม่

2.กรณีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวนำเสนอข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก เผยแพร่ “โหด…นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เรื่องราวใน ปปง. ปิด-ปิง-เงิน”มีมูลความจริงหรือไม่
 

3.ขอให้ตรวจสอบสมาคมพ่อค้าไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ของกลุ่มคนจีนสีเทาว่ากระทำการละเมิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีงามความสงบสุขในสังคมหรือไม่ การติดป้ายสมาคมพ่อค้าไทยในพระบรมราชูปถัมภ์เป็นการหลอกลวงคนจีนและคนไทยให้หลงเชื่อหรือไม่ หากละเมิดให้ดำเนินการยุบสมาคมตามกฎหมายต่อไป

4.กรณีกลุ่มทุนจีนสีเทาซื้อโครงการบ้านหรูของบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ราคาเฉลี่ยหลังละ 35-60 ล้านบาท รวมเงินประมาณ 2,500 ล้านบาท มีข้อสงสัยการทำธุรกรรมทางการเงินว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เงินที่มาซื้อชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

5.ขอให้เชิญข้าราชการสำนักงาน ปปง. และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา โดยขอให้ประธานวุฒิสภาพิจารณาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไปโดยเร็วที่สุด
 

ล่าสุดชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตส.สพรรครักประเทศไทยโพสต์ เฟสบุ๊ค ระบุว่า พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ประธานคณะกรรมการ ปปง.ลาออกแล้ว พร้อมแนบหนังสือลาออกในโพสต์ล่าสุด มีเนื้อหาว่า "หลังจากพาดพิงถึงประธาน ปปง. และทำให้ท่านตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งต้องยอมรับว่าเป็น ลูกผู้ชาย ขอชื่นชมความกล้าหาญในการตัดสินใจ เมื่อประชาชนไม่มีตำแหน่งแห่งหนอย่างผมพูด" 

นายชูวิทย์ ระบุอีกว่า “และท่านไม่ตอบโต้ ไม่ปฏิเสธ ไม่กอดอำนาจเอาไว้  หรือแม้แต่แก้ตัวต่อหน้าสื่อกลับตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวลาออกโดยทันที ถือว่าเป็นวิถีทางที่หาได้ยากยิ่งสำหรับคนมีอำนาจในสังคมไทยทุกวันนี้  เพื่อตอบข้อครหา และพิสูจน์ตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิไร้ซึ่งตำแหน่งเป็นเกราะป้องกัน”

"ในนามประชาชน ขอคารวะการตัดสินใจนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ดีแก่ทุกหน่วยงานรัฐในประเทศไทย พลังของประชาชนยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดและจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง"

“ประธาน ปปง.” ลาออกหลังถูกโยงพัวพันทุนจีนสีเทา