"อนุทิน" เมิน"ประยุทธ์"ประกาศตัว ยันเป้าภท.พรรคแกนนำ-ดูดส.ส.ด้วยผลงาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงประเด็นการตั้งฉายาทางการเมืองว่า เป็นเรื่องธรรมดาไม่เด่นจะเป็นข่าวหรือ ไม่ขอให้คะแนนฉายาที่ได้รับ

ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องแข่งขันกันด้วยการทำความดี ทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน เราก็ต้องมียุทธศาสตร์ของเรา พล.อ.ประยุทธ์ท่านเป็นนายกมาปีที่ 8 ตั้งแต่วันแรกที่ท่านเป็นนายกฯ ท่านก็เข้าสู่การการเมืองแล้ว

ส่วนกรณีมีนักการเมืองย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยในช่วงที่ผ่านมา นายอนุทิน กล่าวว่าถ้าสนใจในแนวทางของพรรคเรื่องของการพูดแล้วทำ หาเสียงไว้ต้องทำได้ ก็มาร่วมงานกัน เราไม่ปิดกั้น

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงไฮไลท์การเมืองปีหน้า นายอนุทิน ตอบว่า  ปีหน้าก็มีการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนต้องทำงานอย่างเต็มที่เอานโยบายไปสร้างความเชื่อมั่นกับชาวบ้าน ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องทำเรื่องการสื่อสาร ทำเรื่องการปราศรัย ต้องเดินไปเคาะประตูบ้านประชาชน ต่างคนต้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง

 

เมื่อถามถึงเรื่องการจับขั้วทางการเมืองภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า 

"ต้องดูผลของการเลือกตั้ง คิดกันเองไม่ได้ ต้องดูการตัดสินใจของประชาชน กับพรรคภูมิใจไทยเรามีแนวทางของเราอยู่แล้วเราหวังว่าจะเป็นพรรคใหญ่ ได้กำหนดทิศทาง ไม่ใช่ว่าคอยแต่จะไปดูว่าพรรคอื่นทำอย่างไร แล้วจะไปขอจอย ขอแจม ถ้าเราทำพรรคขนาดนี้ วันเปิดที่ทำการ เราแสดงให้เห็นความพร้อมกันไปแล้วมีสมาชิก มีอดีต ส.ส.มาสมัคร มากมาย มันเป็นทิศทางที่บอกว่าเราพร้อม จะเป็นพรรคแกนนำ ด้วยทรัพยากรบุคคลด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ด้วยนโยบายด้วยผลงาน แต่เราจะไปจองตำแหน่งแกนนำไม่ได้ ต้องให้ประชาชนตัดสินใจ"

 

วันเดียวกันนายอนุทินยังให้ สัมภาษณ์ ประเด็นการย้ายเข้าของนักการเมืองจำนวนมากจนถูกตั้งข้อครหาว่าเป็นเครื่องดูด ยืนยันว่า ในอดีตอาจจะมีพรรคการเมืองที่มีทุนหนา ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจ เพื่อเป้าหมายบางอย่าง แต่พรรคภูมิใจไทย เราอายุ 10 กว่าปีแล้ว เติบโตขึ้นเรื่อยๆ  ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ เราเป็นพรรคที่ยืนหยัดในถนนการเมืองอย่างมั่นคง เราทำงานเต็มที่ ค่อยๆ สร้างความมั่นใจ ให้ประชาชน เราก้าวอย่างระมัดระวัง ส่วนคำว่าดูด เป็นคำที่ใช้กันเพื่อสร้างความน่าสนใจให้ประเด็น เวลามีการย้ายพรรค ก็ใช้คำว่าดูด 

"ผมไม่เคยไปบอกว่าให้ใครมาอยู่กับเรา แลกกับเงินทอง สิ่งที่เรามีคือผลงาน และนโยบายที่เราทำสำเร็จ นโยบายของเราไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย และทำได้จริง ถ้าชอบแบบนี้ ก็มาคุยกัน" 

สมมุติว่าถ้าการเข้ามาในพรรคเรา หมายถึงใช้เงินซื้อมา ถามว่า เราจะเอาเงินขนาดนั้นมาจากไหน แล้วถ้าทำ มันไม่มีทางเป็นความลับ ยิ่งกว่านั้น มันจะทำให้การจัดการองค์กรลำบากมาก เพราะสมาชิกพรรคจะนึกแต่เรื่องผลประโยชน์ จนพรรคดำเนินการไม่ได้

"เรื่องดูด ผมมองว่าเราดูดด้วยผลงาน มันเป็นพลวัตร ถ้าเราทำเรื่อยๆ มันจะเป็นกำลังขึ้นมา หากทำงาน หมุนไปเรื่อยๆในทางฟิสิกส์จะเกิดเป็นแรงดูด จึงขอให้หมุนไปแบบนี้ หมุนด้วยความเร่ง ความตั้งใจ ความจริงใจต่อประชาชน แรงดูดจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ยิ่งเราทำงาน แรงดูด จะยิ่งเพิ่มขึ้น"