"ฝ่ายค้าน" ยื่นอภิปรายทั่วไปแล้ว ลั่นซักล้าง"ประยุทธ์" ตัวแปดเปื้อนปชต.
"ชลน่าน" นำพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแล้ว ลั่น "ประยุทธ์" คือ จำเลยหลักของการอภิปราย หวังซักล้างตัวแปดเปื้อนระบบรัฐสภา-ประชาธิปไตย
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นำ หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านและ สมาชิกพรรคฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แล้ว เมื่อเวลา 13.00 น.
ทั้งนี้นายชวนกล่าวว่า สำหรับช่วงเวลาที่จะเปิดประชุมเพื่ออภิปรายตามญัตติดังกล่าว คาดว่าจะอยู่ในช่วงไม่เกินปลายเดือนมกราคม 2566 เนื่องจากตอนต้นเดือนมกราคม2566 จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ทั้งนี้ตนจะประสานไปยังรัฐบาลอีกครั้ง ส่วนจะได้เวลาอภิปรายเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับการหารือของแต่ละฝ่ายอีกครั้ง
ขณะที่นายชลน่าน แถลงว่า การยื่นอภิปรายทั่วไป ของพรรคฝ่ายค้านจะกำหนดให้เป็นยุทธการถอดหน้ากากคนดี โดยจะเน้นการอภิปรายผลงานของรัฐบาลในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาซึ่งโยงกับนโยบายเร่งด่วน12ด้านของรัฐบาลที่ประกาศไว้ต่อสภาฯ แต่พบว่าล้มเหลว โดยเนื้อหาและรายละเอียดของการอภิปรายเรื่องการซักถาม ตอบปัญหาจะครอบคลุมพฤติการณ์ พฤติกรรม และรัฐมนตรีที่รับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งญัตติที่เขียนไว้ครอบคลุมความรับผิดชอบของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ด้วย อย่างไรก็ดีการอภิปรายของฝ่ายค้าน จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะเป็นจำเลยหมายเลข1 และเป้าหลักของการอภิปราย เพื่อซักล้างสิ่งที่แปดเปื้อนกับระบบรัฐสภา แปดเปื้อนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และแปดเปื้อนโอกาสของประชาชน
“สิ่งที่พรรคฝ่ายค้านจะอภิปรายในสภาฯ แม้ครั้งนี้จะลงมติไม่ไว้วางใจในสภาฯ ไม่ได้ แต่ประชาชนจะเป็นผู้ลงคะแนน และตัดสินใจว่าจะให้รัฐบาลชุดนี้ หาประโยชน์และสืบทอดอำนาจต่อไปหรือไม่ โดยการอภิปรายทั่วไปครั้งนี้จะแตกต่างจากการอภิปรายทั่วไปใน 3 ครั้งที่ผ่านมา โดยย้ำถึงความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดิน ปัญหาที่เกิดขึ้น และ พรรคฝ่ายค้าน ฐานะฝ่ายประชาธิปไตยมีแนวทางข้อเสนออย่างไรให้ประชาชนได้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกตั้ง และเชื่อว่าพวกเราจะได้รับโอกาสจากประชาชน” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า การอภิปรายทั่วไปจะเจาะลึกทุกประเด็นให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากคนดีที่อยู่มา 4 ปี หรือย้อนไปก่อนหน้านั้น รวมเป็น 8 ปี เนื้อแท้ของคนดีที่เข้ามาทำหน้าที่บริหารบ้านเมืองนั้นเป็นอย่างไร ถือเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งใหญ่ เพื่อให้ประชาชนร่วมตรวจสอบว่า คนดีนั้น แท้จริงแล้วเป็นอย่างไร เพื่อจะได้นำไปตัดสินใจในการเลือกตั้งปี 2566
ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวย้ำว่า การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ความเข้มข้นจะเทียบกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อเป็นการตรวจการบ้านของรัฐบาลชุดนี้ และต่อยอดจากฉายาของนายกฯ ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบให้ว่า แปดเปื้อน
“การอภิปรายทั่วไป ถือเป็นครั้งสุดท้ายของสภาฯ ปีนี้ ส.ส.โหวตไม่ได้ แต่ประชาชนโหวตแทนได้ในการเลือกตั้ง ซึ่งการอภิปรายจะนำข้อมูลการทุจริต ความล้มเหลวของการทำงานมานำเสนอเพื่อให้ประชาชนใช้สิทธิโหวตแทนส.ส.” นายพิธา กล่าว