“2 ส.”แบ่งจบ หัวหน้า-เลขาฯ ยื่น 2 เงื่อนไข ดีล“นายใหญ่”
โดยเคาะจบที่ “สุดารัตน์” นั่งหัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์” นั่งเลขาธิการพรรค สำหรับแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีจะส่งชื่อของ “สุดารัตน์-สมคิด” เพียงสองชื่อเท่านั้น โดยไม่จัดเรียงลำดับว่าใครเป็นแคนดิเดตลำดับที่เท่าไร
แม้ “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ยังออกอาการกั๊กปมควบรวมสองพรรค เพื่อขับเคลื่อนในนาม “พรรคสร้างไทย” แต่ในทางลับการเจรจาควบรวมคืบหน้าไปมาก
ข้อเสนอบนโต๊ะเจรจาก่อนหน้านี้ มีโจทย์ให้ “อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย นั่งเก้าอี้ผู้นำพรรคหลังควบรวม โดยให้ “น.ต.ศิธา ทิวารี” เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย มานั่งเก้าอี้เลขาธิการอีกครั้ง แต่ข้อเสนอดังกล่าวมีอันต้องตกไป
เนื่องจาก “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย จะไม่มีบทบาทในพรรคใหม่ จึงมีการยื้อยุดกันไปมา และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ดีลควบรวม “2 ส.” ล่มไปหลายครั้ง
แต่เมื่อมีการเปิดดีลใหม่ สูตรการจัดสรรอำนาจภายในพรรคเริ่มลงตัว โดยเคาะจบที่ “สุดารัตน์” นั่งหัวหน้าพรรค “สนธิรัตน์” นั่งเลขาธิการพรรค ส่วน “อุตตม” อาจจะต้องหาตำแหน่งใหม่รองรับ เพื่อให้เข้ามามีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนพรรค
สำหรับ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะส่งชื่อของ “สุดารัตน์-สมคิด” เพียงสองชื่อเท่านั้น โดยไม่จัดเรียงลำดับว่าใครเป็นแคนดิเดตลำดับที่เท่าไร เพื่อไม่ให้เกิดการเปรียบเทียบคู่แคนดิเดตกันเอง
เมื่อดีลควบรวม ไทยสร้างไทย + สร้างอนาคตไทย ได้บทสรุป จึงเหลือเพียงวัน ว. เวลา น. เท่านั้น ที่จะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการออกมา เพื่อขับเคลื่อนการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง
ขณะที่เคลียร์เรื่องภายในได้ข้อยุติ ก็เปิดปฏิบัติการดีลลับเลือกขั้วทันที โดย“2 ส.” เดินเกมเร็วด้วยการส่ง “บิ๊กเนม” ของพรรค ไปเจรจากับ “นายใหญ่” ที่มาปักหลักในเกาหลีใต้ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เป้าหมายครั้งนี้ มี 2 ประเด็นสำคัญ คือพร้อมเป็น “แนวร่วมเพื่อไทย” ในการจับขั้วรัฐบาล หากต้องการอะไหล่ โดยจะพยายามไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น อีกเงื่อนไขที่จำเป็นต้องขอความร่วมมือในฐานะพันธมิตร คือขอความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะพื้นที่คาดหวังของพรรคใหม่ ในภาคอีสาน ที่คะแนนนิยมของ “สุดารัตน์” มีโอกาสได้ลุ้น
เพราะหากสองพรรคต้องฟาดฟันกันเอง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะตัดแต้มกันเอง และย่อมเข้าทางขั้วตรงกันข้าม ฉะนั้น เพื่อแก้จุดอ่อนนี้ จึงขอให้นายใหญ่พิจารณาเรื่องการ "หลบเขต" ให้กัน
2 ข้อเสนอนี้ ก็อยู่ที่ว่า คนแดนไกลจะมีประกาศิตอย่างไร เพราะเวลานี้ แรงต้าน 2 ส.ในเพื่อไทย ก็มีไม่น้อย
เวลานี้หลังฉากก็ยังต้อง รบไป เจรจาไป แต่หน้าฉาก “2 ส.”กำลังเร่งหาฤกษ์เปิดตัวพรรคใหม่ เร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะหลายพรรคออกสตาร์ท สาดนโยบาย เรียกกระแสนำไปแล้ว