กกต.เท สจล.! Rapid Report ทำหลอน ส่อไร้ระบบรายงานเลือกตั้งไม่เป็นทางการ
ส่อไร้รายงานไม่เป็นทางการ! กกต. เท สจล.ไม่เห็นชอบระบบรายงานผลเลือกตั้ง ส.ส.ไม่เป็นทางการ-รับสมัครออนไลน์ ที่ถูกดึงมาช่วยทำระบบ เหตุ Rapid Report ในอดีตทำหลอนตอนเกิดปัญหา ไร้คนรับผิดชอบ ไม่เชื่อมั่น แถมงบสูง
เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุม กกต. ไม่เห็นชอบกรณีที่สำนักงาน กกต.เสนอแผนงานการจัดทำโปรแกรมการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบออนไลน์ และการรายงานผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างไม่เป็นทางการ ตามที่ก่อนหน้านั้นสำนักงาน กกต.ได้มีประสานและได้รับความร่วมมือจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในการสร้างระบบนานเกือบปีจนแล้วเสร็จ โดยมีรายงานว่าที่ประชุม กกต.ไม่เชื่อว่าระบบที่มีการจัดทำขึ้นจะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆในอดีตที่ทำให้การรายงานผลการเลือกตั้งมีความคลาดเคลื่อนได้ อีกทั้งถ้า กกต.เห็นขอบให้สำนักงานดำเนินการตามที่ขอหากเกิดปัญหาขึ้น ก็จะกลายเป็นสิ่งที่มัดตัว กกต.เองเพราะเป็นระบบของสำนักงานเอง ขณะเดียวกันงบในการจัดทำราว 20 ล้านบาทก็สูงเกินไป
“กกต.ระบุว่าคราวเลือกตั้งปี 62 ที่สำนักงาน กกต.ให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน )หรือสพร.ทำระบบรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการผ่านแอปพลิเคชั่น Rapid Report แต่พอเกิดปัญหาระบบรายงานผลล่ม มีการโจมตีระบบ ก็ไม่มีใครที่จะรับผิดชอบ กลายเป็นปัญหามาตกหนักที่ กกต.” แหล่งข่าว ระบุ
รายงานข่าว ระบุอีกว่า ภายหลังนายแสวง บุญมี ได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการ กกต. เคยระบุถึงนโยบายเกี่ยวกับการจัดเลือกตั้งส.ส.ทั่วไปที่จะเกิดขึ้นกรณีสภาผู้แทนราษฎรครบวาระในปี 2566 ว่า นอกจากระบบการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการแล้ว จะเป็นจะพยายามนำใบรายงานผลการนับคะแนนส.ส.แบบแบ่งเขต หรือ ส.ส. 5/18 ที่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ติดประกาศไว้หน้าหน่วยเลือกตั้งเมื่อมีการนับคะแนนเสร็จสิ้น เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อความโปร่งใส ให้ผู้สมัครและประชาชนตรวจสอบได้
ขณะเดียวกัน กกต.มอบนโยบายให้สำนักงานหารือกับทางสื่อมวลชนเพื่อขอความร่วมมือในการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเพราะในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สื่อสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ดี แต่เมื่อสำนักงานฯหารือกับตัวแทนสื่อได้รับแจ้งว่าด้วยจำนวนหน่วยเลือกตั้งตั้งเกือบ 1 แสนหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ สื่อมีกำลังคนไม่พอ ต่างจากเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่มีหน่วยเลือกตั้งราว 6,000 หน่วยเลือกตั้ง และการรายงานผลการเลือกตั้งของสื่อก็ใช้วิธีการสุ่มราว 2,000 หน่วยเลือกตั้งเท่านั้น ทางสำนักงานฯจึงได้มีการประสานไปยังสพร. แต่ก็ได้รับแจ้งว่าไม่พร้อมเช่นกัน จนมีการติดต่อไปยังสจล. ซึ่งเข้ามาศึกษาปัญหาและอุปสรรคต่าง ของการรายงานผลการเลือกตั้งในครั้งก่อน และสร้างระบบการรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการขึ้นใหม่ โดยการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งหน้าหน่วยเลือกตั้งรวมอยู่ด้วย ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ราว 10 ล้านบาท
ขณะเดียวกันทางสำนักงานฯเห็นว่าขณะนี้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีการแก้ไขให้สามารถรับสมัครแบบออนไลน์ได้จึงได้ขอให้มีการทำระบบการรับสมัครเลือกตั้งแบบออนไลน์ขึ้นเพื่อเป็นการอำนวยคามสะดวกให้กับผู้สมัคร และเป็นการเตรียมไว้กรณีหากเกิดปัญหาการปิดล้อมสถานที่รับสมัครเช่นอดีต โดยส่วนนี้ก็จะใช้งบประมาณอีกราว 10 ล้านบาท แต่ที่สุดก็ไมได้รับความเห็นชอบจาก กกต.
อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา กกต.จะมีระบบการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการโดยในปี 2562 ร่วมมือกับสพร.จัดทำเป็นแอพพลิเคชั่น Rapid Report ปี 2557 จ้างมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้ดำเนินการ ขณะที่ปี 2554 เป็นการร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ล่าสุดหลังจาก กกต.ไม่เห็นชอบแผนงานดังกล่าว ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสำนักงาน กกต.จะมีการดำเนินการในเรื่องการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่ทางการอย่างไร ซึ่งโดยระยะเวลาที่เหลืออยู่ไม่มาก ชัดเจนว่าการที่สำนักงานฯจะประสานและได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานใดคงเป็นไปได้ยาก ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่การเลือกตั้งที่จะไม่ขึ้นจะไม่มีระบบการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่ทางการเช่นที่ผ่านมา