28 ม.ค.ก้าวไกลเปิดนโยบายเรือธง “พิธา” ไม่หวั่นถูกมองทำกิจกรรม “ม็อบ 3 นิ้ว”

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2566 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกิจกรรมคาร์ม็อบเรียกร้องปล่อยตัวผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง และแกนนำพรรคก้าวไกลได้ไปร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืนหยุดขัง”  ว่า ไม่ห่วงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพรรค เพราะไม่ใช่เรื่องที่ ส.ส. ไม่พึงกระทำ แต่กังวลสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมทางการเมือง มองว่าการเคลื่อนไหวของเยาวชนนั้นเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องวาระทางสังคมในการคืนสิทธิ์การประกันตัว และเป็นกังวลเรื่องของการใช้อำนาจ กดขี่ประชาชนและการใช้ความรุนแรงที่ส่วนใหญ่เกิดจากตำรวจ จึงเรียกร้องไปยังภาครัฐและฝ่ายความมั่นคง ว่าอย่าเห็นอนาคตของชาติเป็นศัตรู แต่รัฐควรจะมีหลักประกันความปลอดภัยให้กับบุคคลที่ออกมาเรียกร้องระบบนิติรัฐนิติธรรมให้เกิดขึ้นในประเทศ

นายพิธา กล่าวถึงการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่า เป็นการลงพื้นที่ตัดหน้ากัน แต่ห่วงเรื่องของปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเรื่องการทุจริตและยาเสพติด หรือฝุ่น PM 2.5 แต่รัฐบาลไม่ได้เอาเวลาไปบริหารประเทศแต่กลับนำเวลาไปเล่นการเมือง หาเวลาเข้าสู่อำนาจ

เมื่อถามถึงความพร้อมในการคัดเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในขณะนี้ นายพิธา กล่าวว่า เตรียมเกือบครบ ในช่วงโค้งสุดท้ายก็จะดำเนินการให้ครบทั้ง 400 เขต และในวันที่ 28 ม.ค. 2566 ในการประชุมใหญ่สามัญของพรรคจะมีการเปิดนโยบาย เป็นนโยบายเรือธง จากนั้นก็จะลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ กทม.อีกครั้งหนึ่ง โดยคาดหวังที่จะปักธงสนามเลือกตั้ง คว้าเก้าอี้ ส.ส. ใน กทม.ให้ได้มากที่สุด จาก 33 เขต ขณะเดียวกันแกนนำพรรคก้าวไกลยังอยู่ระหว่างการวางแผนถึงยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนการหาเสียงเลือกตั้ง วางไว้หลายฉากทัศน์ทางการเมือง ทั้งฉากทัศน์ที่มีการยุบสภา หรือการครบวาระของรัฐบาล

ส่วนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของพรรคการเมืองฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นายพิธา กล่าวว่า จะเป็นผู้อภิปรายนำในส่วนของพรรคก้าวไกล ถือเป็นการตรวจการบ้านในเรื่องของการทุจริต หรือการประพฤติมิชอบ การบริหารแผ่นดินที่ล้มเหลวทั้งสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ส่วยอุทยานฯ ส่วยทุนจีน รวมถึงเรือหลวงสุโขทัยอับปาง จนถึงตอนนี้ประชาชนยังไม่ได้รับคำตอบ คำชี้แจงจากนายกรัฐมนตรี