"ฝ่ายค้าน" ล้างแค้น ล่มประชุม "พิเชษฐ์" ซัด "ส.ส.รัฐบาล" ไร้ความรับผิดชอบ
"อุบลศักดิ์-พิเชษฐ์" เสนอนับองค์ประชุมสภาฯ ชี้ ส.ส.รัฐบาล ไร้ความรับผิดชอบ - ไม่ร่วมแก้รธน. สุดท้าย สภาฯ ล่มตามระเบียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภา ซึ่งดำเนินการพิจารณาตามวาระจนถึงเวลา 12.55 น. พบว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอให้ที่ประชุมนับองค์ประชุม เพื่อความสง่างามของสภาฯ ต่อการประชุมสภาฯ วาระรับทราบรายงานของหน่วยงาน โดยนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย เสนอให้นับองค์ประชุมก่อนที่สภาฯ จะดำเนินการประชุมมต่อ เพื่อความสง่างาม มีส.ส.รับฟังการพิจารณารายงานและร่างกฎหมายต่างๆของรัฐบาล
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวสนับสนุนข้อเสนอของนายอุบลศักดิ์ พร้อมกล่าวว่าเมื่อวันที่ 25 มกราคม มีการประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่ามีส.ว.ไม่มาแสดงตน และ ฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือ และในการประชุมสภาฯ วาระกระทู้ที่สำคัญ ที่พบว่ามีบางพรรคการเมืองใช้สถานที่ของผู้ค้ายาเสพติดเป็นอาคารสำนักงาน แต่ไม่ได้พูดในสภา ต้องเลื่อนไปวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ซึ่งเชื่อว่ายุบสภาไปแล้ว ดังนั้นการประชุมวันนี้( 26 มกราคม) จะให้ฝ่ายค้านนั่งฟังเพื่ออะไร รัฐบาลต้องรับผิดชอบ ส.ส.ที่เป็นฝ่ายรัฐบาลต้องรับผิดชอบเป็นองค์ประชุม ไม่ใช่ให้ฝ่ายค้านนั่งเป็นองค์ประชุม แต่ไม่อยู่ ต้องทำตามข้อบังคับของสภาฯ อย่างเคร่งครัดให้ตรวจสอบองค์ประชุม ถือเป็นความรับผิดชอบแต่ละบุคคล
ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมกล่าวขึ้นว่า “ผมนั่งอยู่บนนี้ เห็นหมด ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ารรัฐบาลอยู่พอๆกัน การทำหน้าที่ในสภาเป็นหน้าที่ของส.ส.ทุกกคน เพราะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ส่วนเรื่องเมื่อวานให้เป็นเรื่องเมื่อวาน ส่วนวันนี้เป็นเรื่องของวันนี้” พร้อมร้องขอให้ยกเลิกการเสนอนับองค์ประชุม แต่ไม่เป็นผลทำให้นายศุภชัย ต้องเรียกสมาชิกมาแสดงตนเมื่อเวลา 12.58 น.
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าการแสดงตนดังกล่าวมีส.ส. กว่า 30 คนที่ใช้การแสดงตนด้วยการขานชื่อแทนการกดบัตรแสดงตน หลังจากที่ ส.ส.เพื่อไทย ชี้ชวนให้ประชาชนเห็นว่าการเข้าประชุมนั้นเป็นความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล
ต่อมา นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้สับเปลี่ยนทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม และใช้เวลารอองค์ประชุมเพียงไม่กี่นาที ก่อนจะกล่าวปิดการแสดงตน และนายสุชาติ กล่าวว่า “ผมขึ้นทีไร ก็ปิดการประชุมทุกที จนได้รับฉายาว่ามือปิดประชุม แต่ผมไม่รู้จะประชุมต่อได้อย่างไร เพราะองค์ไม่ครบ มีคนกดบัตรแสดงตน 122 คน และแสดงตนผ่านการขานชื่อ 30 คน และรวมผมด้วย เป็น 31 คน แต่ยังขาดอีกเยอะ องค์ประชุม ไม่เป็นองค์ประชุมต้องเลิกโดยปริยาย ต้องเลิกประชุม”
ทั้งนี้การประชุมล่มดังกล่าว ถือเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2566.