'พิธา' ชี้ ปชน.แพ้ชิงนายก อบจ.อุดรฯ แต่คะแนนเพิ่ม เชื่ออีก 3 ปีได้ สส.มากกว่า 1
'พิธา' ลั่นแม้ ปชน.แม้พ่ายศึกเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี แต่ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นกว่าปี 66 ชี้สร้างความก้าวหน้าสำคัญในสมรภูมิที่ยากที่สุด เชื่ออีก 3 ปีข้างหน้าเลือกตั้งใหญ่ เกมต่างออกไป ได้ สส.เขต มากกว่า 1 คนแน่นอน
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ช่วยหาเสียงของนายคณิศร ขุริรัง อดีตผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ภายหลังพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ว่า Debrief อุดร : เปลี่ยนความท้าทายให้เป็นแรงผลักดันในอุดรธานี ปีที่แล้วเป็นการเลือกตั้งระดับประเทศ มีผู้มาใช้สิทธิ์ 800,000 คน (69%) และพรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียง 220,000 คะแนน ปีนี้เป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น โดยมีผู้มาใช้สิทธิ์ลดลงเหลือ 640,000 คน (52%) แต่พรรคประชาชนกลับได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 268,000 คะแนน นี่ถือเป็นคะแนนที่มากกว่าครั้งที่พรรคก้าวไกลเคยได้รับอีก! แม้ว่าจะมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ลดลงก็ตาม!
นายพิธา ระบุว่า แม้เราจะไม่ได้ชัยชนะ แต่เราก็ได้สร้างความก้าวหน้าสำคัญในหนึ่งในสมรภูมิที่ยากที่สุดนับตั้งแต่พรรคก้าวไกลก่อตั้งขึ้นมา อุดรธานีเคยเป็นฐานเสียงที่แข็งแกร่งของอีกฝ่ายมาโดยตลอด แต่ผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเรากำลังลดช่องว่างลงได้อย่างต่อเนื่อง อีก 3 ปีข้างหน้า เมื่อถึงรอบการเลือกตั้งระดับประเทศอีกครั้ง มันจะเป็นเกมที่แตกต่างออกไป การเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการเปิดให้ลงคะแนนเสียงจากต่างประเทศ (ซึ่งพี่น้องแรงงาน จาก อ. หนองหาน, เพ็ญ และ บ้านผือ จำนวนมาก จะมีสิทธิ์ลงคะแนนจากต่างประเทศ) การลงคะแนนล่วงหน้า และการลงคะแนนนอกเขต ทำให้กระบวนการเลือกตั้งมีความครอบคลุมและเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น มุ่งหน้าสู่เป้าหมาย จุด " tipping point" พวกเราสามารถเพิ่มอัตราผู้มาใช้สิทธิ์ เปลี่ยนแปลงคะแนนเสียงในหน่วยเลือกตั้ง และสร้างอนาคตที่เสียงของทุกคนได้รับการได้ยินและนับอย่างแท้จริง
ก้าวสู่ปี 2570! ขอให้ทุกคนพิจารณา 3 ข้อดังต่อไปนี้
1) ลองเทียบคะแนนรายอำเภอ จะเห็นเลยว่ามี โอกาสได้ สส. มากกว่า เขต 1 แน่นอน (ผมคำนวนแล้วแต่ยังไม่บอก)
2) เกาะติดพื้นที่แบบ ไม่ใช่แค่ระดับอำเภอ แต่ระดับตำบล หรือ หมู่บ้าน ในเขตนั้น ๆ
3) ใช้ กมธ.ที่ดิน เกษตร แรงงาน ท่องเที่ยว ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ในเขตนั้น ๆ