ดีกว่ายุคอนาคตใหม่! "ธนาธร" เดินสายชลบุรี ยัน "ก้าวไกล" พร้อมบริหารประเทศ
"ธนาธร" เดินสายชลบุรี ร่วมผู้สมัคร ส.ส. "ก้าวไกล" พบประชาชนที่สัตหีบ มั่นใจพร้อมเดินหน้าบริหารประเทศ ยกประสบการณ์ "คณะก้าวหน้า" ทำนโยบายท้องถิ่น มองเห็นปัญหา สำเร็จหลายเรื่อง ลั่นเก็บประสบการณ์มา 4 ปีเต็ม ดีกว่าสมัย "อนาคตใหม่" แน่
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมกิจกรรมวันสถาปนาคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ประจำปี 2566 พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “จินตนาการใหม่ของรัฐไทย : การสร้างประชาธิปไตยจากฐานราก” ก่อนที่ในช่วงเย็นจะร่วมเปิดวงพบปะประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ร่วมกับ นิชนันท์ วังคะฮาต ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล ที่ตลาดนัด 700 ไร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
โดยในการบรรยายช่วงบ่ายที่มหาวิทยาลัยบูรพา นายธนาธรได้บรรยายถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจ เหตุผลที่การรวมศูนย์อำนาจนำไปสู่ความไม่พัฒนาของประเทศ พร้อมตัวอย่างของในประเทศต่างๆ ที่มีการกระจายอำนาจสมบูรณ์ ว่าสามารถสร้างการพัฒนาประเทศผ่านอำนาจของท้องถิ่นได้อย่างไรบ้าง ซึ่งธนาธรระบุว่าในประเทศไทยที่อำนาจการตัดสินใจและงบประมาณเกือบทุกเรื่องถูกรวมไว้อยู่ที่ส่วนกลางอย่างไทย ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่การพัฒนาจะเป็นไปอย่างล่าช้าและเหลื่อมล้ำ ท้องถิ่นไม่สามารถจัดการปัญหาพื้นฐานของประชาชนได้ เพราะขาดทั้งงบประมาณและอำนาจ
นายธนาธร กล่าวอีกว่าที่ผ่านมาประเทศไทยมีการต่อสู้เรื่องการกระจายอำนาจมาอย่างยาวนาน แต่ปัญหาการเมืองคืออุปสรรคที่สำคัญ ทั้งจากการรัฐประหารที่ยึดอำนาจเข้าสู่ส่วนกลาง และการขัดขวางจากผู้ที่เสียผลประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ที่ผูกขาดการเข้าถึงอำนาจและงบประมาณ ในระบอบรัฐราชการรวมศูนย์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
“ในการต่อสู้ครั้งล่าสุดเพื่อการกระจายอำนาจ เราต้องเผชิญกับวาทกรรมว่าข้อเสนอของเราเป็นการเร็วเกินไป สุดโต่งเกินไป คนไทยยังไม่พร้อม มันคือวาทกรรมที่ผลิตจากคนที่จะถูกเอาอำนาจและงบประมาณออกไปจากมือหากมีการกระจายอำนาจ คนพวกนี้เสวยสุขอยู่บนความเดือดร้อนของคนส่วนใหญ่ นั่งถืออำนาจและงบประมาณ รอให้คนวิ่งเข้ามาหา คอยพาไปเที่ยว พาไปเลี้ยงข้าวเพื่อขอแบ่งงบประมาณลงมา คอยฉุดรั้งการพัฒนาของประเทศ นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องสุดโต่งเกินไปในศตวรรษที่ 21” นายธนาธร กล่าว
ในช่วงเย็น นายธนาธร เดินทางต่อไปยัง อ.สัตหีบ เพื่อพบปะกับประชาชนและผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ได้แสดงความมั่นใจต่อพรรคก้าวไกล โดยระบุว่าแม้วันนี้ธนาธร-ปิยบุตร จะถูกตัดสิทธิ ไม่มีบทบาทในพรรคก้าวไกลแล้ว แต่พรรคก้าวไกล ก็พิสูจน์แล้วว่าสามารถเดินต่อไปได้อย่างสง่างาม ทำหน้าที่ในการตรวจสอบในสภาได้อย่างโดดเด่น ส่วนตัวเองและคณะก้าวหน้า ซึ่งเน้นทำงานให้คำปรึกษาในการพัฒนาท้องถิ่น ก็ได้ประสบการณ์มากมายในการดำเนินนโยบายต่างๆ ทั้งเรื่องของน้ำประปา การจัดการขยะ เศรษฐกิจการท่องเที่ยว และนโยบายด้านอื่นๆ
นายธนาธร กล่าวว่า จากประสบการณ์ของคณะก้าวหน้าเหล่านี้ ได้ทำให้เราเห็นถึงปัญหาของประเทศในส่วนที่ลึกที่สุด คือในระดับตำบลและหมู่บ้านต่างๆ ได้เห็นสิ่งที่เป็นปัญหาร่วมกันของคนทั้งประเทศ จากภาพเล็กมาสู่ภาพใหญ่ อย่างเช่นเรื่องของการเข้าไม่ถึงน้ำประปาที่ใสสะอาด ไหลตลอด 24 ชั่วโมง ที่เป็นปัญหาร่วมกันของประชากรมากกว่า 90% ของประเทศนี้ ซึ่งคณะก้าวหน้าได้เข้าไปดำเนินการจนสำเร็จมาแล้วที่ เทศบาลอาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด และกำลังจะสำเร็จในอีก 6 แห่งในปีนี้
ส่วนพรรคก้าวไกลเอง ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้ทำงานในสภาอย่างต่อเนื่อง เข้าไปนั่งในกรรมาธิการชุดต่างๆ ได้เห็นการทำงานของระบบราชการ การจัดสรรและทำงบประมาณของภาครัฐ ทำให้พรรคก้าวไกลได้เรียนรู้และมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกมาก และมีนโยบายที่พัฒนาขึ้นจากเดิม จนดีกว่านโยบายในสมัยพรรคอนาคตใหม่มาก
“ผมยืนยันได้เลยว่านโยบายของพรรคก้าวไกลดีกว่านโยบายในสมัยพรรคอนาคตใหม่ สี่ปีที่ผ่านมากับประสบการณ์ร่วมกันของทั้งพรรคก้าวไกลในการทำงานในสภา และของคณะก้าวหน้าในการพัฒนาท้องถิ่น พวกเรายิ่งเห็นถึงความเป็นไปได้ในการทำให้ประเทศไทยดีกว่านี้ และยิ่งมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ในสิ่งที่เราตอกย้ำมาตลอดว่าประเทศไทยดีกว่านี้ได้” นายธนาธร กล่าว