"อนุทิน" ประกาศชนโคราช ดัน "บุญจง" สู้คนคุ้นเคย ลั่นส่งผู้สมัครส.ส.ครบ500

ที่ทําเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรมช.มหาดไทย และอดีตส.ส.นครราชสีมากลับมาร่วมงานกับ พรรคภูมิใจไทย ว่า นาบุญจง จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นครราชสีมา แทนนายอภิชา เลิศพชรกมล ที่ลาออกไป
โดยนายบุญจง ถือเป็นผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย มาตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว เคยเป็น รมช.มหาดไทย สมัยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคคนเก่า เป็นรมว.มหาดไทย และในพื้นที่นครราชสีมา ตนเป็นหัวหน้าทีมเองร่วมกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท. จะช่วยกันดูแล เนื่องจากนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล หัวหน้าทีมคนเดิมแจ้งว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ และลาออกจากการเป็นรัฐมนตรี ในโควต้าของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย พร้อมรับมือกับคู่แข่งในพื้นที่ดังกล่าว หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปมองว่าใครเขาจะส่งหรือไม่ส่งลงสมัคร เพราะในทางการเมืองยังไม่เคยเจอเขตพื้นที่เลือกตั้งไหนที่ไม่มีคู่แข่ง หากคนนี้ไม่ลงแข่งก็ต้องลงแข่งกับคนนั้น เป็นเรื่องปกติ

นายอนุทิน  ยังกล่าวถึงความพร้อมในการส่งผู้สมัครโดยยืนยันว่า จะส่งส.สได้ครบทั้ง 500 คนแบ่งเป็นเขต 400 คนและบัญชีรายชื่ออีก 100 คน ส่งให้ครบทุกพื้นที่

ทั้งนี้กฎหมายลูกเสร็จแล้ว จากนี้ จะยุบสภาหรือจะอยู่ครบวาระก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ส่วนของพรรคภูมิใจไทยต้องเตรียมตัวให้พร้อม

เมื่อถามว่า กังวลไหม ต้องสู้กับทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายอนุทิน ตอบว่า  เราต้องสู้กับตัวเอง ต้องทำให้ประชาชนเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยทำงานจริงทำงานเป็นพูดแล้วทำ เราทำงานกันอย่างถึงพริกถึงขิง เลือกเราเข้าไปทำงานแล้วไม่ผิดหวัง

" จะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทยจะพูดถึงแต่นโยบายและการทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน เราจะไม่มีวิจารณ์พรรคการเมืองใด เราไม่สนับสนุนความขัดแย้งเราสนับสนุนการทำงาน"

ส่วนการลงพื้นที่เขตพญาไท เมื่อวันที่29 ม.ค.ที่ผ่านมา การหาเสียงของพรรคเป็นไปตามนโยบายของพรรคมาโดยตลอด ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร เรา เปิดตัวผู้สมัคร ซึ่งเคยเป็นผู้แทนฯ โดยในทีมมีระดับรัฐมนตรีอยู่ด้วย การที่ผู้ซึ่งเป็น ส.ส.ลาออก แล้วมาทำงานกับเรา มันสะท้อนว่าเขามีความมั่นใจในตัวเอง และมีความมั่นใจในตัวพรรค ที่สำคัญ ยังทำให้ผู้สมัครทำงานได้ง่ายขึ้น สะดวกใจขึ้น 

"พรรคภูมิใจไทย หวังว่าจะเป็นตัวเลือกในหัวใจของคน กทม. ในต่างจังหวัด เราได้พิสูจน์ตัวเองในการใช้ความรู้ความสามารถเพื่อพัฒนาพื้นที่แล้วจึงได้ขอโอกาสกับคนกทมในการรับใช้ทั้งบ้านเพื่อจะได้ใช้ประสบการณ์ที่ดีในการพัฒนาพื้นที่ของท่าน"