ฉากหลังอดีตเส้นด้ายหนี “ก้าวไกล” สะเทือนแลนด์สไลด์เมืองหลวง

ช่วงนี้องคาพยพสีส้มกำลังระส่ำระส่ายหนัก 

ย้อนไปไม่กี่เดือนก่อน “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า ขุนพลทางความคิด “สีส้ม” ประกาศยุติบทบาททุกอย่างในพรรคก้าวไกล ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพรรคอีก หลังจากนั้นเจ้าตัวเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลอย่างหนักหลายครั้ง

ล่าสุด มีประเด็น “คริส โปตระนันทน์” อดีตประธานกลุ่มเส้นด้าย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจตุจักร พญาไท ราชเทวี ยื่นใบลาออกจากสมาชิก “พรรคก้าวไกล” พร้อมเตรียมหอบทีมงาน ส.ก.ในเครือข่าย “อดีตเส้นด้าย” นำโดย “เฮียเล้า” พีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท ไปจัดตั้งพรรคใหม่อีก

เบื้องต้นมีการปล่อยข่าวจากพรรคส้มว่าสาเหตุที่ “คริส” จำเป็นต้องโบกมือลา “ค่ายสีส้ม” เป็นครั้งที่ 2 (ครั้งแรกถูกลดบทบาทภายหลังแพ้การเลือกตั้งปี 2562 ในนามพรรคอนาคตใหม่ แต่ยังสมัครสมาชิกพรรคก้าวไกลต่อ) เพราะความน้อยเนื้อต่ำใจ และความขัดแย้งกับ “แกนนำพรรคส้ม” บางคน

แต่ข้อมูลอีกด้านระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ “คริส” ต้องออกจาก “ก้าวไกล” เพราะความเป็น “เผด็จการ” ในพรรค จากเดิมที่ก่อร่างสร้างมาเพื่อคนทุกกลุ่ม แต่ตอนนี้ทำขัดกับหลักการตอนแรกทุกอย่าง กลายเป็นพรรคของ “คนกลุ่มเดียว” ถึงขั้นใช้คำว่า “โปลิตบูโร” คอยกุมบังเหียนสั่งลูกพรรคซ้ายหันขวาหัน ส่วนบรรดา ส.ส.เขต และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต กลายเป็นเพียง “พลเมืองชั้นสอง” เท่านั้น

ที่สำคัญพรรคตอนนี้ “ท่อน้ำเลี้ยงหดหาย” ไม่เคยจ่ายแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้บรรดา ส.ส.เขตหลายคน รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เดิมเริ่มทนไม่ไหว และทยอยลาออกจากพรรคไปแล้ว ไม่ใช่แค่กรณี “คริส” และ “เฮียเล้า” เท่านั้น

สำหรับ “คริส” คือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง “พรรคอนาคตใหม่” พร้อมกับ 4 สหาย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ปิยบุตร แสงกนกกุล-พรรณิการ์ วานิช-ชัยธวัช ตุลาธน” ขับเคลื่อนงานทางการเมืองในประเด็นเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคม

โดยในการเลือกตั้งปี 2562 “คริส” ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตราชเทวี เขตพญาไท เขตจตุจักร (เฉพาะแขวงจตุจักรและจอมพล) แต่พ่ายแพ้ได้ลำดับที่ 2 โกยแต้มไปถึง 23,980 คะแนน ห่างจากอับดับหนึ่ง “ภาดาห์ วรกานนท์” ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ได้ 28,690 คะแนน เพียงแค่ 4,980 คะแนนเท่านั้น

ภายหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้ง “คริส” กลับถูกลดบทบาทลงอย่างมาก กระทั่งเกิดอุบัติกาลโรคโควิด-19 ขึ้นมา เจ้าตัวผุดไอเดียก่อตั้ง “มูลนิธิเส้นด้าย” รวบรวมกลุ่มก๊วนเพื่อนฝูงทั้ง “เจตน์” ภูวกร ศรีเนียน “เฮียเล้า” พีรพล กนกวลัย เข้ามาทำงานเพื่อช่วยเหลือคนในสังคม และผู้ป่วยโรคโควิด-19 ระหว่างปี 2562-ปัจจุบัน จนมีชื่อ ได้รับการพูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง

ทำให้ “พรรคก้าวไกล” เริ่มมองเห็นบทบาทของ “คริส” และชักชวนกลับมาทำงานในพรรคอีกครั้ง และช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ถูกพรรควางตัวให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตเดิม พร้อมกับเจ้าตัวประกาศลาออกจากประธานมูลนิธิเส้นด้าย กลับมาขับเคลื่อนงานการเมืองเต็มตัวอีกรอบ

ผ่านไปไม่กี่เดือน “คริส” กลับเกิดความขัดแย้งกับแกนนำพรรคบางรายอีกครั้ง พร้อมกับถูกลดบทบาทลง ทำให้รอบนี้จะไม่ทนอีกต่อไป ประกาศลาออกจากพรรค รวบรวม “อดีตคนเส้นด้าย” ไปก่อร่างสร้างพรรคใหม่มาสู้ โดยเฉพาะเขตพื้นที่ กทม.ซึ่ง “เส้นด้าย” เป็นที่รู้จักอย่างมากจากคนในชุมชนหลายแห่ง

2 หัวหอกแกนนำพรรคใหม่ตอนนี้คือ “คริส” ที่คาดว่าจะนั่งเก้าอี้เป็นหัวหน้าพรรคเอง และ “เฮียเล้า” พีรพล ส.ก.เขตพญาไท อดีตผู้ก่อตั้งเส้นด้าย มานั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค

มีความเคลื่อนไหวว่า นอกเหนือจาก “คริส” และ “เฮียเล้า” ส.ก.เขตพญาไท แล้ว ยังมีความพยายามชักชวนบรรดา ส.ก.สังกัดพรรคก้าวไกลอีกอย่างน้อย 8 คน มาร่วมงาน โดยมี 3 “อดีตเส้นด้าย” แนวโน้มสูงจะย้ายมาร่วมด้วย ได้แก่ อภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย หรือ “มาร์ท” ส.ก.เขตจตุจักร เอกวิน โชคประสพรวย ส.ก.เขตราชเทวี และ สัณห์สิทธิ์ เนาถาวร ส.ก.เขตวัฒนา

ส่วน ส.ก.พรรคก้าวไกลอีก 4 คน แม้ไม่เคยร่วมทำงานใน “เส้นด้าย” แต่หลังเลือกตั้งได้คลุกคลีหารือวงการเมืองมาโดยตลอด มีแนวโน้มว่าอาจลาออกจากก้าวไกลมาร่วมงานด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีความพยายามชักชวนอดีตคนเคยทำงานในมูลนิธิเส้นด้ายเข้ามาทำงานกับพรรคใหม่อีกจำนวนหนึ่ง

เบ็ดเสร็จคาดว่าจะมีอดีตสมาชิก “เส้นด้าย” มาร่วมงานกับ “คริส” และ “เฮียเล้า” ราวเกือบ 20 ชีวิต และอดีต ส.ก.พรรคก้าวไกล ซึ่งมาคลุกคลีกันทีหลังอีกอย่างน้อย 4 คน

ทว่า สัดส่วนคน “อดีตเส้นด้าย” ถือว่าน้อยมากหากเทียบกับบุคคลอื่นที่ถูกทาบทามมาตั้งพรรคใหม่ เพราะฉะนั้นไม่อาจพูดได้ว่าพรรคใหม่นี้คือพรรคของเส้นด้าย

สำหรับชื่อพรรคใหม่ถูกโยนกลางวงหารือไป 2 ชื่อคือ “พรรคทำได้” และ “พรรคเส้นด้าย”

อย่างไรก็ดีชื่อ “พรรคเส้นด้าย” ถูกคนที่ยังทำงานอยู่ในเส้นด้ายตั้งข้อครหาว่า อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และเป็นภาพจำทับซ้อนกับ “มูลนิธิเส้นด้าย” ที่ปัจจุบันยังดำเนินงานช่วยเหลือสังคมอยู่ และไม่เกี่ยวข้องทางการเมืองแต่อย่างใด

แต่มิใช่คนอดีตเส้นด้ายทั้งหมดจะออกไปร่วมกับ “คริส” และ “เฮียเล้า” เพราะยังมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่เคยเป็น “อดีตเส้นด้าย” อีก 4 คน ไม่ลาออกจากพรรค ได้แก่ สุรพันธ์ ไวยากรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี เขต 1 ชุมพล หลักคำ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา “หมอออย” เฉลิมชัย กุลาเลิศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตห้วยขวาง เป็นต้น

การลาออกจากพรรคของ “คริส” และ “เฮียเล้า” อาจเรียกว่าสั่นสะเทือนแลนด์สไลด์สีส้มของ “ก้าวไกล” มิใช่น้อย เพราะฐานเสียงหลักในการเลือกตั้ง ส.ก.ที่ผ่านมา เกือบครึ่งล้วนมาจาก “อดีตคนเส้นด้าย” รวมถึงว่าที่ผู้สมัครที่อาศัยเครือข่าย “เส้นด้าย” หาเสียง

หากนับเฉพาะ 4 ส.ก.ก้าวไกล อดีตเส้นด้าย พบว่า ได้คะแนนเสียงรวมกัน 46,867 คะแนน แบ่งเป็น พีรพล กนกวลัย หรือ “เฮียเล้า” ส.ก.เขตพญาไท 8,585 คะแนน อภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย หรือ “มาร์ท” ส.ก.เขตจตุจักร 22,356 คะแนน

เอกวิน โชคประสพรวย ส.ก.เขตราชเทวี 7,107 คะแนน สัณห์สิทธิ์ เนาถาวร ส.ก.เขตวัฒนา 8,819 คะแนน

ยังไม่นับคะแนนเสียงของเครือข่าย “คนอดีตเส้นด้าย” ที่ลงสมัคร ส.ก. แต่พ่ายแพ้ไป รวมแล้วราว 2-3 หมื่นเสียง และคะแนนเสียงของ ส.ก.ก้าวไกล อีก 4 คนที่มีแนวโน้มสูงจะมาร่วมอีก อีกราว 1-2 หมื่นเสียง

เบ็ดเสร็จรวมกันคะแนนเสียงของคน “อดีตเส้นด้าย” ที่เป็น ส.ก. และลงสมัคร ส.ก.แต่สอบตกราวเกือบ 1 แสนเสียงเลยทีเดียว

ขณะที่ภาพรวมการเลือกตั้ง ส.ส.กทม. เมื่อปี 2562 ของพรรคอนาคตใหม่ ได้คะแนนไป 804,272 เสียง พา ส.ส.เข้าสภา 9 ที่นั่ง

ดังนั้นหาก “คริส” และ “เฮียเล้า” หอบทีมงาน ส.ก. พร้อมคนอดีตเส้นด้ายออกจากพรรคก้าวไกล อาจทำให้พรรคเสียคะแนนในพื้นที่ กทม.ไปราว 10-12 % ซึ่งถือว่าค่อนข้างมากในทาง “คณิตศาสตร์การเมือง”

ยิ่งปัจจุบันคะแนนนิยมสีส้ม โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองหลวงกำลังลดต่ำลงจากการที่แกนนำพรรคก้าวไกลบางคนให้ท้ายหนุน “ม็อบราษฎร” และเครือข่าย รวมถึงความนิยม “พ่อของฟ้า” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็น้อยกว่าปี 2562 ประมาณหนึ่ง

ดังนั้นคงต้องรอดูการเดินหมากของ “ก้าวไกล” แก้ “รูโหว่” ทั้งเรื่อง “ปิยบุตร” และกรณี “คริส-เฮียเล้า” รวมถึงข้อครหา “เผด็จการในพรรค” อย่างไร 

แผนการ “แลนด์สไลด์สีส้ม” จะบรรลุผลเหมือนที่ฝันไว้หรือไม่ จับตาดูอีกไม่กี่เดือนถัดจากนี้