“ก้าวไกล” ไล่บี้ กกต.แจงให้ชัดปมแบ่งเขตเลือกตั้ง 66 ซัดคนไม่ไว้ใจ
“ปดิพัทธ์ ก้าวไกล” เร่ง กกต. แจงให้ชัดปมแบ่งเขตเลือกตั้ง 66 อัดยิ่งทำงานยิ่งทำคนไม่ไว้ใจ ชี้กรณี ป.ป.ช. ฟัน “อดีตรองเลขาฯ กกต.” ปมบัตรเลือกตั้งนิวซีแลนด์ ทำคะแนนประชาชนสูญเปล่า ต้องไม่ให้เกิดซ้ำอีก
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณีมีรายงานข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะหารือในวันนี้ ประเด็นการนำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณจำนวน ส.ส. ที่แต่ละจังหวัดพึงมีและแบ่งเขตเลือกตั้ง 2566 เนื่องจากมีหลายฝ่ายในสังคมทักท้วง โดยประเด็นหารือรวมถึงอาจพิจารณายื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเรื่องนี้ ว่า ก่อนหน้านี้พรรคก้าวไกลเคยแสดงความกังวล ว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ไม่ชัดเจน อาจนำไปสู่เลือกตั้งโมฆะเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รวมถึงตั้งคำถามว่า การนับรวมราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยนั้น เป็นสิ่งที่ กกต. เคยทำมาก่อนหรือไม่ หากเคยทำมาก่อน ก็ไม่น่าต้องกังวลว่าจะมีปัญหา แต่หากไม่เคยทำมาก่อน ครั้งนี้ก็ไม่ควรทำเช่นกัน
นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้น กกต. ออกมาชี้แจงว่า การประกาศจำนวนราษฎรในอดีต ก็ทำเป็นประกาศรวมที่นับทั้งคนสัญชาติไทยและคนที่ไม่มีสัญชาติไทย เพิ่งจะมาแยกคน 2 กลุ่มนี้ออกจากกันในประกาศจำนวนราษฎร วันที่ 31 ธันวาคม 2557 แต่ กกต. ยังไม่ได้ตอบคำถามของพรรคก้าวไกล ว่าแล้วการเลือกตั้งที่ผ่านมาเช่นปี 2562 ได้คิดรวมคนที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณด้วยหรือไม่ ดังนั้นในเมื่อ กกต. จะประชุมวันนี้ ก็ควรมีคำตอบเรื่องนี้ รวมถึงคำตอบว่าถ้า กกต. จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จะกระทบต่อไทม์ไลน์การเลือกตั้งหรือไม่
นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า ตามกฎหมาย การเลือกตั้งควรมีขึ้นไม่เกินวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ ทั้งที่ประชาชนมีความหวังให้การเลือกตั้งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง แต่จากการทำงานของ กกต. ปัจจุบัน ไม่ได้ทำให้ประชาชนรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจได้เลย ไม่ว่าจะเป็น การแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งที่ทะเบียนราษฎรออกมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 แต่ตอนนี้หลายจังหวัดเริ่มพบกลไกที่ย้ายเขตเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางคะแนน เช่น พิษณุโลกเขต 1 มีความพยายามตัดพื้นที่ที่ตนทำงานอย่างต่อเนื่องออกไป และเอาพื้นที่ของนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นฝ่ายรัฐบาลมาเติมแทน นอกจากนี้ ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับระบบรายงานผลเลือกตั้งแบบ real time ทั้งที่ กกต. ได้รับงบประมาณจัดเลือกตั้งถึงเกือบ 6,000 ล้านบาท
“กกต.ต้องชี้แจงเรื่องพวกนี้ เพราะสำคัญมากต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ในฐานะองค์กรอิสระที่มีหน้าที่หลักคือจัดการเลือกตั้งให้โปร่งใสเป็นธรรม แต่ยิ่งใกล้เลือกตั้ง กกต. กลับยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามว่าทำงานกันอย่างไร ทำไมดูขาดความพร้อม ขาดความชัดเจนเต็มไปหมด” นายปดิพัทธ์ กล่าว
นายปดิพัทธ์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กับพวกรวม 3 ราย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีละเว้นไม่ดำเนินการรับมอบและติดตามถุงเมล์การทูตที่บรรจุซองใส่บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนอกราชอาณาจักร จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเหตุให้ กกต. มีมติให้บัตรเลือกตั้งจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ไม่สามารถนำมานับเป็นคะแนนได้ ว่า เป็นอีกตัวอย่างที่ชัดเจน สะท้อนความผิดพลาดล้มเหลวของ กกต. ซึ่งต้องไม่ปล่อยให้เกิดซ้ำอีก แม้อดีตรองเลขาธิการ กกต. จะถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและต้องรับโทษ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผลการเลือกตั้ง เสียงของประชาชนที่ถูกทำให้สูญเปล่า เป็นสิ่งที่เรียกคืนไม่ได้ ทุกพรรคการเมือง รวมถึงอดีตพรรคอนาคตใหม่ ล้วนได้รับผลกระทบ เพราะคะแนนจากนิวซีแลนด์บางส่วนอาจทำให้พรรคมีคะแนนมากขึ้นและชนะเลือกตั้งในบางเขต เช่น นครปฐมเขต 1 อดีตพรรคอนาคตใหม่ชนะ 4 คะแนน แต่กลับมาแพ้เพราะเจ้าหน้าที่นับรวมคะแนนผิดแล้วไม่ยอมรวมใหม่ เปลี่ยนไปนับคะแนนใหม่ มีการแสดงคะแนนเปลี่ยนไปมาถึง 5 ครั้ง ก่อนเกิดคะแนนเขย่งและพรรคอนาคตใหม่แพ้เลือกตั้งในที่สุด