แกะรอย“บิ๊กพปชร.”ล้มซักฟอก สกัดปม“ทุนจีนสีเทา”ลามยุบพรรค
“มือมืด” คาดหวังไล่ต้อนกลุ่ม ส.ส. “บ้านใหญ่” ให้มาอยู่ “พรรคน้อง” จึงมีปมหวั่นในใจว่าจะวางเกมลึก ส่งข้อมูลให้ “ขั้วฝ่ายค้าน” ชำแหละปมทุนจีนสีเทา ก่อนจะเข้าเงื่อนไขยุบพรรคพลังประรัฐ จึงไม่แปลกที่ “บิ๊กเนมพลังประชารัฐ” คิดจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
แผนล้มอภิปรายไม่ไว้วางใจ แบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ถูกปูดมาจาก “บิ๊กเนมขั้วรัฐบาล” ที่หวั่นใจว่า หากถูกชำแหละแผล จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง เนื่องจากขั้วรัฐบาลมีหลายแผลที่หากถูก “ขั้วฝ่ายค้าน” หยิบยกมาโจมตี อาจทำให้เสียแต้มการเมืองได้
“บิ๊กเนมขั้วรัฐบาล” จึงไม่อยากเสี่ยงยื่นดาบให้คู่ต่อสู้มาทิ่มแทงตัวเอง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่แม้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม จะแยกกันเดินคนละทางไปแล้ว ซึ่งในทางการเมืองพรรคพลังประชารัฐ จึงไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกันอีก
ดังนั้นแผลของ “ประยุทธ์” ที่จะถูกชำแหละมากกว่ารัฐมนตรีคนอื่น ทางพรรคพลังประชารัฐอาจจะแอบสะใจเสียด้วยซ้ำ และหาก “ประยุทธ์” ต้องเสียแต้มทางการเมืองจากศึกซักฟอก แต้มการเมืองอาจจะสวิงมาที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นไปได้
ที่สำคัญ “ประวิตร” แม้อาจจะโดนหางเลข มีปมให้ “ขั้วฝ่ายค้าน” ซักฟอก-ซักถามอยู่บ้าง แต่คงไม่กระทบกระเทือนมากนัก เพราะแทบจะไม่มีปมให้ถล่มมากนัก แต่ที่น่าห่วงมากกว่า เพราะมีกระแสข่าวว่า ลูกพรรคที่ไม่ได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี อาจจะโดนจัดหนัก เพราะมีหลักฐานบางชิ้น สะเทือนถึงพรรคพลังประชารัฐได้
โดยแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เก็งข้อสอบกันว่า ประเด็น “ทุนจีนสีเทา” จะถูกขุดคุ้ยมาโจมตีในศึกซักฟอก แถม “ตู้ห่าว” ตัวละครหลักทุนจีนสีเทา เคยบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ ที่นำมาใช้ขับเคลื่อนงานด้านการเมือง
ขณะเดียวกัน ในช่วงที่ผ่านมามีการปล่อยข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่เพิ่งคัมแบ็คสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง หลังออกไปสร้างพรรคเศรษฐกิจไทยมาแรมปี แต่ไปไม่รอด
ต้องยอมรับว่า ในช่วงที่คดีทุนจีนสีเทาร้อนแรง มีการไล่เบี้ย-ไล่ขุน เชื่อมโยงตัวละครทางการเมือง ไปยัง “ธรรมนัส” ทำให้เจ้าตัวต้องหลบร้อนออกนอกประเทศไทย ไปตั้งหลักสู้อยู่ต่างประเทศ วนเวียนแถวตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากจำกันได้ ครั้งหนี่งมีคำถามถึง “ประวิตร” ถึงกระแสข่าวว่าจะรับ “ธรรมนัส” กลับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ โดย “ประวิตร” ออกตัวแบ่งรับแบ่งสู้ว่า “ธรรมนัส” ยังติดคดีอยู่ ซึ่งก็หมายถึงกรณีทุนจีนสีเทา
ดังนั้นเมื่อมีปมเสี่ยง ล่อแหลมจะถูก “ขั้วฝ่ายค้าน” ขยายบาดแผล “บิ๊กเนมพลังประชารัฐ” จึงออกตัวเปิดดีล"ล้มศึกซักฟอก" ด้วยการต่อสายถึงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เล่นแง่องค์ประชุมไม่ครบ หวังตีตกญัตติซักฟอก ปิดปากขั้วฝ่ายค้านไปในตัว
เนื่องจากความแตกแยกของ “สองลุง” ที่เล่นกันแรง ชิงจังหวะทางการเมืองกันทุกฝีก้าว ทำให้เครือข่ายของ “สองลุง” หวาดระแวงกันเอง
เกมนี้เครือข่าย “ลุงป้อม” หวั่นใจว่าเครือข่าย “ลุงตู่” จะเอาข้อมูลลับ-ข้อมูลลึก ที่ยามรักก็ช่วยกันปกปิดเอาไว้ แต่เมื่อเลิกรักอาจจะสาวไส้ให้กากิน ยื่นดาบให้ศัตรูทิ่มแทง “พรรคพี่”
โดยก่อนหน้านี้ มีการวิเคราะห์ว่า ปมคดี “ทุนจีนสีเทา” ที่เชื่อมโยงกับ “ตู้ห่าว” บริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นไม้เด็ดให้ “มือมืด” เดินเกมส่งนอมินียื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคพลังประชารัฐได้
เพราะ “มือมืด” คาดหวังไล่ต้อนกลุ่ม ส.ส. “บ้านใหญ่” ให้มาอยู่ “พรรคน้อง” โดยไม่มีเงื่อนไขอื่นมาเป็นข้ออ้าง ฉะนั้นเมื่อมีปมหวั่นในใจว่า “มือมืด” จะวางเกมลึก ส่งข้อมูลให้ “ขั้วฝ่ายค้าน” ชำแหละปมทุนจีนสีเทา ก่อนจะเข้าเงื่อนไขยุบพรรคพลังประรัฐ จึงไม่แปลกที่ “บิ๊กเนมพลังประชารัฐ” คิดจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ล้มศึกซักฟอก
แม้จะเป็นศึกซักฟอกที่ไม่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ จึงไม่สะเทือนรัฐบาล แต่อาจสะเทือนถึงขั้นยุบ “พรรคพลังประชารัฐ” ได้
ทางเดียวที่จะสกัดแผน “มือมืด” คือการล้มศึกซักฟอกให้ได้เสียก่อน จึงต้องจับตาว่า วันนี้ “ขั้วฝ่ายค้าน” จะเปิดสภาฯซักฟอก “ขั้วรัฐบาล” ได้หรือไม่