"นายกฯ" ปัดให้คะแนนซักฟอกกับ "ฝ่ายค้าน" กำชับ ฝั่งรัฐบาล อย่าทำประชุมล่ม
นายกฯ บอกฝ่ายค้านพูด 2 วันหลายอย่างก็เป็นประโยชน์ ปัดให้คะแนนการอภิปราย พร้อมกำชับฝั่งรัฐบาล ช่วยผ่านกฎหมายสำคัญ ห่วงมีผลกระทบประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาฯ เพื่ออภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพูดมา 2 วัน หลายอย่างเป็นประโยชน์ หลายอย่างก็ฟังไป ส่วนที่เป็นประโยชน์ก็จะนำไปปรับปรุงแก้ไข หลายเรื่องเราก็รับฟังไว้ครบทุกคน ต้องอดทนฟังเขา และหาเหตุหาผล ข้อเท็จจริงต่างๆ นายกฯ ต้องทำเพื่อชาติเพื่อประชาชนทุกคน ที่นี่เป็นสภา ตนให้เกียรติแก่สภา
“ขอบคุณสื่อมวลชนที่อุตส่าห์อยู่เป็นกำลังใจให้นายกฯ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยนะจ๊ะ ทุกคนคงทราบดีว่านายกฯ พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปต่อให้ได้ อยากจะบอกพวกเราว่า พวกเราทุกคนตั้งแต่ทีมงานทั้งหมดก็ทำอย่างเต็มที่นะจ๊ะ ปัญหามีความซับซ้อนอยู่หลายเรื่อง ซึ่งดำเนินการแก้ไขอยู่มากพอสมควร จนกว่าจะถึงเป้าหมายที่เราต้องการให้ได้ 100%" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจะให้คะแนนฝ่ายค้านในการอภิปรายทั่วไปเท่าไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่สามารถกำหนดได้ เพราะตนไม่ได้ตั้งเกณฑ์ไว้ ทั้งนี้สุดแล้วแต่ประชาชน ตนให้ความสำคัญกับทุกคน เข้าใจว่าทุกคนมีความปรารถนาดี แต่มีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันหลายเรื่อง ต้องไปทำความเข้าใจกันให้ได้
เมื่อถามว่า การประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ได้กำชับ ส.ส. ไม่ให้การประชุมล่ม หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำชับมาเสมอ กฎหมายสำคัญก็มีอยู่ 2-3 ฉบับ ที่ต้องทำให้เสร็จสมัยเรา วันนี้ก็เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องช่วยกัน เพราะกฎหมายบางฉบับที่สำคัญ ทั้งกฎหมายการศึกษา กฎหมายประมง และกฎหมายกัญชา หากทำไม่แล้วเสร็จจะเกิดผลกกระทบกับประชาชน ทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก ล่าช้า
เมื่อถามถึงการปิดสมัยประชุมสภาฯ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปิดสภาแล้ว ทุกคนกลับบ้าน ขอให้ปลอดภัยแล้วกันในการเดินทาง หากจะไปหาเสียงไป อยากฝากไว้ว่าอยากให้ช่วยเอาสิ่งดีๆ ให้ประชาชนรับรู้รับทราบด้วย สิ่งที่ขาดสิ่งหนึ่งคือการเข้าถึงการบริหารจัดการของภาครัฐ เมื่อเป็นผู้แทนของประชาชนเราควรเอาสิ่งดีดีไปขยายให้เขาบ้าง ว่าเขาได้อะไรอยู่แล้ว ตนเข้าใจหน้าที่ของฝ่ายค้านก็ต้องค้าน แต่อะไรที่มันเป็นประโยชน์ก็พูดให้เกิดประโยชน์เพราะมันทำไปแล้ว ถ้าถามแต่ว่าจนไหม เงินพอไหม ถามอยู่แค่นี้ ก็อยากให้แนะนำสิ่งที่รัฐบาลทำว่าประชาชนเข้าถึงแล้วหรือยัง ตนคิดว่าต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่ในการสัมพันธ์กับประชาชน เราต้องปรับตัวเราเองให้ทันกับโลกภายนอก.