สตม.เพิกถอนวีซ่า "หยู ซิน ฉี" แล้ว เร่งขยายผลทุกความผิด
ตำรวจ เพิกถอนวีซ่า “หยู ซิน ฉี” แล้ว หลังถูกแฉพัวพันตั้งสมาคมเถื่อน-อ้างเบื้องสูง พบถือวีซ่าวัยเกษียณถูกต้อง คุมตัวเข้าห้องกัก เตรียมขอหมายค้นบ้าน-สมาคม ขยายผล
ภายหลังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คุมตัว นายหยู ซิน ฉี ประธานมณฑลส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย มาสอบถามข้อมูล ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ออกมาแฉว่า มีส่วนพัวพันกับการจัดตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง และบุคคลสำคัญระดับประเทศ ในการแสวงหาผลประโยชน์ มาที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี
ล่าสุด พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า การนำตัว นายหยู มาครั้งนี้ เป็นการควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง หลังพบพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ในเรื่องการตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือสมาคมเถื่อนตามที่ปรากฎตามสื่อมวลชน จึงได้ดำเนินการเพิกถอนวีซ่า หรือใบอนุญาตพำนักในราชอาณาจักร ซึ่งนายหยู ถือวีซ่าประเภทบั้นปลายชีวิต หรือหรือวีซ่าเกษียณอายุ
โดยเจ้าตัวเข้ามาพำนักในราชอาณาจักรได้ 2 ปีแล้ว และขออยู่ต่อตามหลักเกณฑ์ของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทุกประการ ซึ่งไปขออยู่ต่อที่ จ.ชลบุรี อีก 1 ปี โดยวีซ่าประเภทเกษียณอายุ มีหลักเกณฑ์ สำหรับชาวต่างด้าว ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และต้องการอาศัยอยู่ในประเทศไทย
นอกจากนี้ได้ทำการตรวจสอบพบว่า ขั้นตอนในการขอวีซ่าถูกต้อง มีการแสดงหลักฐานทางการเงิน คือเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ หรือบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อย กว่า 800,000 บาท หรือมีเงินไม่น้อยกว่าเดือน 65,000 บาท โดยเงินได้ 12 เดือน รวมกันไม่น้อยกว่า 800,000 บาท
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการตั้งข้อหา หรือ ออกหมายจับแต่อย่างใด ซึ่งทางตำรวจ สตม. จะดำเนินการกักกันตามกฎหมายคนเข้าเมืองที่ สตม.สวนพลูในคืนนี้
ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการขอข้อมูลจาก นายหยู แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คาดว่าภายในวันพรุ่งนี้จะสามารถขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้าน และสมาคมของนายหยู เพิ่มเติม
แต่จากการเข้าตรวจเบื้องต้นพบว่า นายหยู เข้ามาเปิดสมาคมอยู่ในประเทศไทย และมีป้ายภาษาจีนแปลตามชื่อ สมาคมที่ปรากฏเป็นข่าว โดยที่ตั้งของสมาคมอยู่คนละจุด กับบ้านพัก ที่ตำรวจไปพบตัว ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวนายหยู เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายหยูให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกตกใจแต่อย่างใด
ส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด ฟอกเงิน ความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำความผิดกฎหมายเพิ่มเติม การเป็นตัวกลางที่นำคนจีนเข้ามาในประเทศไทย และตัวบุคคลผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ จะดำเนินการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป แต่เชื่อว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าวพฤติกรรมของ นายหยู อาจก่อเกิดความเสียหายกับบุคคลอื่น
ในส่วนกำหนดระยะเวลาการผลักดันออกนอกราชอาณาจักร ต้องขึ้นกับระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าภายในเมื่อไหร่ ระหว่างนี้ อยู่ในขั้นตอนการสอบถามข้อมูล เชื่อว่า จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และจะสามารถขยายผลต่อไปได้
ต่อมาเวลา 17.30 น. ทางตำรวจ สตม. ได้นำตัวนายหยู ไปกักกันตัวที่ สตม.สวนพลู ตามกฎหมายคนเข้าเมือง โดยนายหยู มีสีหน้าที่ผ่อนคลาย และไม่ได้สวมกุญแจมือ ซึ่งนายหยูกล่าวกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า “It's ok” “no worry” “ผมพูดไทยได้นิดหน่อย” ก่อนจะขึ้นรถตู้ไป