ผ่ากลยุทธ์“ปชป.” สู้ “ประยุทธ์” แม่ทัพ“เดชอิศม์”ขอผงาดกวาด 40
"มั่นใจว่าในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมี ส.ส. 58 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์มีโอกาสกวาด ส.ส.เข้าสภา 40 ที่นั่ง และอาจจะเพิ่มอีก 10 ที่นั่ง เป็น 50 ที่นั่ง หากปรับและแก้ไขจุดอ่อนได้ทัน"
สมรภูมิภาคใต้ดุเดือดเลือดพล่าน เมื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ลงสนามการเมืองเต็มตัวภายใต้สีเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เตรียมสู้สุดใจทวงคืนพื้นที่ภาคใต้ให้กลับคืนมา
ผลโพลหลายสำนัก เผยแพร่ผลสำรวจในพื้นที่ภาคใต้ ปรากฏว่าคะแนนส่วนตัว “พล.อ.ประยุทธ์” นำมาเป็นอันดับหนึ่ง นำหน้า “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.ค่อนข้างห่าง แต่คะแนนพรรคการเมือง “ปชป.” ยังครองใจคนภาคใต้
รายการ Nation Uncensored ได้สัมภาษณ์ "เดชอิศม์ ขาวทอง" รองหัวหน้าพรรคปชป. แม่ทัพภาคใต้ เพื่อเจาะกลยุทธ์ของพรรคปชป. ในการเอาชนะ “พล.อ.ประยุทธ์-รทสช.” ในสนามเลือกตั้งภาคใต้ เพื่อช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส. 58 ที่นั่ง
“เดชอิศม์” ที่เรียกขานกันว่า “นายก ชาย” เปิดฉากเล่าว่า ในวันที่ 25 ก.พ. พรรคปชป.จะปราศรัยเวทีใหญ่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งจะมีเซอร์ไพรส์หลากหลายอย่างแน่นอน เนื่องจากพรรคปชป.ยุคใหม่ เราปรับเปลี่ยนไปเยอะมาก นอกจากความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ต้องรักษาเอาไว้
"ในพื้นที่ภาคใต้ ประชาธิปัตย์มีความพร้อมมากกว่าการเลือกตั้งปี 2562 เสียด้วยซ้ำ เนื่องจากปี 2562 เราประสบอุบัติเหตุการณ์ทางการเมือง เราไม่ได้ตั้งตัวเลขว่าเท่าไหร่ แต่วันนี้ผมมาเป็นแม่ทัพภาคใต้ ผมตั้งหลัก และมีความพร้อมมากที่สุด"
"คนใต้เขาคิดเรื่องการเมืองตลอดเวลา แล้วเขาจะสรุปในตอนท้าย วันนี้ผมเชื่อว่าคนใต้ยังคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่อยู่กับเขามายาวนาน แต่บางยุคอาจจะมีขึ้นมีลงบ้าง แต่เมื่อปรับความรู้สึกคนใต้ใหม่ ให้เขาเห็นว่าเราจะฟื้นพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้อย่างไร ฟื้นความเป็นอยู่คนใต้อย่างไร ผมเชื่อว่าเมื่อถึงจุดพีคพี่น้องชาวใต้จะกลับมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน”
“เดชอิศม์” กล่าวอีกว่า ถ้าพวกเราดูพรรค ปชป.แบบเดิม เราอาจจะขัดแย้งกันบ้าง ในบางจังหวัดมีบ้านใหญ่หลายหลัง แต่วันนี้ความแตกแยกในแต่ละจังหวัดแทบไม่มีเลย อย่างจังหวัดสงขลาก่อนปี 2562 แยกบ้านกัน ชาวบ้านจะไปบ้านใหญ่ที่หนึ่งก็เกรงบ้านใหญ่หลังที่สอง วันนี้ตนบอกว่าไม่เอา พรรคปชป.ต้องเป็นหนึ่งเดียว
“วันนี้ผมมาร้อยพวงสะตอ 14 ฝัก ในภาคใต้ให้เป็นหนึ่งเดียว เราต้องอยู่ต้นเดียวกัน ไม่ใช่ไปแตกฝักออกเป็น 15 -16 ฝัก ไม่มี เราต้องเรียงร้อยเป็นหนึ่งเดียว ถึงจะยกระดับภาคใต้ขึ้นมาได้ เราถอดบทเรียนมาแล้ว สิ่งไหนไม่ดีก็ต้องปรับเปลี่ยน เมื่อก่อนเราชะล่าใจว่ากระแสพรรคเราดี ทำให้ผู้แทนบางคนห่างเหินประชาชนมาก ไม่ใกล้ชิด ไม่ติดดิน วันนี้ผมกำชับทุกคนให้ใกล้ชิดประชาชน ให้ประชาชนรู้สึกว่า ส.ส.เป็นคนในครอบครัว นอกจากนี้ ส.ส.ที่ยกตนข่มท่าน ชอบพูดลอยๆ ไม่กล้าระบุตัวบุคคล อย่างนี้เราก็ไม่เอา แต่ส่วนใหญ่ไม่มีแล้ว ออกไปจากพรรคไปหมดแล้ว”
อย่างไรก็ตาม ความนิยมของ “พล.อ.ประยุทธ์” ถูกมองว่ามีมากกว่า “จุรินทร์” อาจจะทำให้พรรค ปชป. เสียเปรียบหรือไม่ “เดชอิศม์” อธิบายว่า กระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ในปี 2562 มีมากกว่าในปีนี้ ขณะนี้กระแส พล.อ.ประยุทธ์นำไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าน้อยมาก
เมื่อถามว่า กระแสของนายจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคได้รับความนิยมค่อนข้างน้อย จะส่งผลต่อภาพรวมของพรรคหรือไม่ “เดชอิศม์” ตอบว่า นายจุรินทร์อาจจะไม่โดดเด่นเท่าที่ควร แต่ถ้าเราขยายผลว่าท่านมีประสบการณ์มาก และไม่มีภาพของการทุจริต เมื่อเราขายจุดนี้ ตนมองว่าคนใต้จะค่อยๆ เข้าใจ และให้เครดิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
"วันนี้คะแนนของพรรคเท่าที่ผมทำโพลมา ใน 14 จังหวัดภาคใต้ เรามีคะแนนนิยมเกิน 50% ในทุกเขต บางจังหวัดมีถึง 70% แต่คะแนนของหัวหน้าพรรคอาจจะอยู่ในลำดับ -3 -4 แต่เราไม่กังวล เพราะเรตติ้งของพรรคยังสูงอยู่ ในช่วงโค้งสุดท้ายก็จะดึงเรตติ้งของหัวหน้าพรรคสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้สมัคร ส.ส.เขต มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นเช่นกัน ผมมั่นใจในหลักวิชาการนี้”
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวพรรค ปชป.จะจับมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมในภาคใต้หรือไม่ “เดชอิศม์” กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้ปิดประตูจับมือพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นรัฐบาล แต่เราต้องยึดมั่นสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย พรรคใดถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เราไม่เอา รวมถึงพรรคที่มีส่วนพัวพันกับการทุจริต เราก็ไม่เอา
“ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ออกไปเจรจากับใครเลย แต่มีบางพรรคโทรมาพูดคุยเงื่อนไข เราก็แค่รับฟังกันเอาไว้ ดีไม่ดีเราได้เกินร้อยที่นั่ง เราจะเป็นคนเลือก ไม่ใช่คนที่ถูกเลือกก็เป็นได้”
เมื่อถามว่า ในพื้นที่ภาคใต้คู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับพรรคปชป.คือใคร “เดชอิศม์” ระบุว่า “ผมมองว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย เค้ารวมกัน 3 กอ เหมือนการเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จังหวัดสงขลา เค้ารวมกันเป็นกอเดียวก็ยังสู้พรรค ปประชาธิปัตย์ไม่ได้ มาวันนี้ต้องแยกกันรายพรรค ฉะนั้นจึงไม่ใช่คู่ชกของประชาธิปัตย์ เขาต้องรวมกันให้ได้ 3 พรรค ถึงจะพอสู้เราได้”
ประโยคสำคัญ “เดชอิศม์” มั่นใจว่าในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมี ส.ส. 58 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์มีโอกาสกวาด ส.ส.เข้าสภา 40 ที่นั่ง และอาจจะเพิ่มอีก 10 ที่นั่ง เป็น 50 ที่นั่ง หากปรับและแก้ไขจุดอ่อนได้ทัน
ต้องลุ้นว่า กลยุทธ์ของประชาธิปัตย์ ที่หวังจะกอบกู้ความเชื่อมั่นคนใต้ และกลับมายึดคืนฐานที่มั่นได้อีกครั้ง โดยมี “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นคู่แข่งสำคัญ จะทำได้สำเร็จหรือไม่