“โรม” ปัด “พิธา-ปิยบุตร” ขัดแย้งโควตา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลั่น “ก้าวไกล” ไม่แตก

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเกิดวิวาทะระหว่างนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขณะนี้ใครเป็นกาวใจประสานรอยร้าวของทั้งคู่ ว่า ทุกคน ใครก็ได้ เป็นกาวใจได้  แต่เรื่องนี้ ต้องเเยกในความเป็นพรรค ไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นเอกภาพ เดินหน้าลุยเต็มที่สมาธิอยู่ที่การเลือกตั้ง แต่ในความเคารพนับถือที่มีต่อนายปิยบุตร ก็มีอยู่สูง แต่พรรคไม่แตกแยกเป็นสองขั้ว ต้องหาจุดลงตัวสองเรื่องคือ การวิจารณ์ และความรู้สึกที่มีกันอย่างรุนแรง  หลังจากนี้คือคงต้องหาทางทำความเข้าใจทุกฝ่ายเพื่อทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน 

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายปิยบุตร มีความคาดหวังต่อพรรค ถึงแม้นายปิยบุตรจะร่วมเส้นทางอยู่ในรถคันเดียวกันไม่ได้ เพราะมีข้อจำกัดจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่เราก็คาดหวังว่า ปลายทางก็เหมือนกัน คือบรรลุเป้าหมายในการปิดฉาก “3 ป.” สร้างประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนเสียที ไม่คิดว่า จะกระทบสมาชิกทั่วประเทศ ในการหาเสียงเลือกตั้ง เชื่อในเสรีภาพ การเเสดงความคิดเห็น ความขัดเเย้งกันยังอยู่ในจุดที่บริหารจัดการได้ ไม่ส่งผลต่อการเลือกตั้งหรือการหาเสียง เพราะวันนี้พรรคเรามีความเป็นเอกภาพมาก 

เมื่อถามว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กระอักกระอ่วนใจมากน้อยแค่ไหนในฐานะคนกลาง นายรังสิมันต์  นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่สามารถไปบอกได้ว่าใครผิดใครถูก เรื่องนี้เกิดบนพื้นฐานการวิพากวิจารณ์ไปมา อาจจะใช้คำพูดที่รุนแรงสักนิด ก็เลยอาจจะทำให้ดูเป็นเรื่องบานปลาย ส่วนที่ถามว่านายธนาธร ได้ยกหูโทรเคลียร์ใจทั้งสองฝ่ายหรือยังนั้น ตนคงไม่สามารถไปตอบเเทนได้ แต่ส่วนของที่ทำอยู่นั้น กำลังพยายามสร้างบรรยากาศที่ดี ทำให้เรามองเห็นจุดที่เราต้องเดินร่วมกัน เราผ่านร้อนหนาวมาเยอะ คงไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เราไม่สามารถเดินต่อได้ ยังมองในทัศนคติเชิงบวกว่า เรื่องนี้คงไม่ส่งผลอะไรมากนัก

เมื่อถามว่า ประเด็นไหน ที่ทำให้เกิดปัญหาระหว่าง นายพิธา กับนายปิยบุตร ใช่การไม่ติดต่อสื่อสารกันโดยตรง เรื่องนโยบายพรรค หรือเรื่องการจัดสรรโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้ง 2566 หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อาจจะตอบตอนนี้ไม่ได้ว่า สาเหตุหลักของความขัดแย้งระหว่างสองคนคืออะไร แต่ว่าเรื่องการจัด ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่น่าใช่แน่ เพราะนายปิยบุตร เข้ามาทำไม่ได้อยู่แล้ว และเอาจริง ๆ ภายในพรรคเรื่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตนยังไม่รู้ว่าจะอยู่ลำดับที่เท่าไหร่เลย ไม่รู้เลยว่าพรรคกำหนดจะประกาศวันที่เท่าไหร่ แต่ให้มองคือความหวังดีต่าง ๆ เพราะนายปิยบุตร ก็วิจารณ์พรรค แต่ในมุมนายพิธา บางทีอาจจะอยากใช้พื้นที่แสดงความคิดเห็นด้วย แต่การเเสดงความคิดเห็นตรงนั้นอาจจะมีข้อมูลที่ต้องถกเถียงกัน เพราะเหมือนกับเวลาเราลงพื้นที่ อย่างประเด็นหนึ่งที่อาจจะเถียงกัน ว่าตกลงพรรคก้าวไกล จะมีกี่ที่นั่ง นายปิยบุตร มองว่าอาจจะไม่เกิน 30 ที่นั่ง แต่พอเราลงพื้นที่จริง ๆ เป็นอีกแบบ นายปิยบุตรอาจจะไม่เห็นมุมมองเเบบนั้น ทำให้เกิดการถกเถียง