อ่านทาง"กัญชา"ภาค 2 เปิดทางธุรกิจ“คนเบื้องหลัง”
ร่างกม.กัญชา กัญชงฯ ของ "ภท." "แท้ง" ไปตามที่คาดหมาย หลังจากที่หมดเวลาพิจารณาของสภาฯ เนื่องจากปิดสมัยประชุม แต่การเสนอเข้าสู่สภาฯ ยังทำได้ ในสภาฯชุดหน้า แต่จะ "ทำได้" หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ "คนเบื้องหลัง" ผู้แทน
เป็นไปตามคาดหมายว่า บทสรุปของ “ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ... คือ “แท้ง” และต้องตกไปตามการหมดวาระของสภาฯ ชุดปัจจุบัน
หลังจากที่การประชุมสภาฯ เมื่อ 22 กุมภา ครูแก้ว “ศุภชัย โพธิ์สุ” รองประธานสภาฯ คนที่สอง ตัดบท จบการพิจารณา ชิงปิดประชุม ก่อนที่สภาฯจะล่ม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ทั้งที่การพิจารณาวาระสอง ผ่านไปไม่กี่มาตรา และยังเข็นการประชุมไปได้ แม้จะเป็นไปแบบคาบเส้นองค์ประชุมก็ตาม
จึงถือว่า การประชุมสภาฯ นัดวันพุธสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุม ที่กำหนดให้พิจารณาร่างกฎหมาย ปิดประตูการพิจารณาแล้ว
ท่าทีต่อเรื่องนี้ “ศุภชัย ใจสมุทร” แกนนำภูมิใจไทย ฐานะประธานกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ยอมรับในความพ่ายแพ้ ตั้งแต่ก่อนการพิจารณาจะยุติว่า ไม่สามารถเข็นให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านได้ทันในสภาชุดปัจจุบัน ภูมิใจไทยจึงเตรียมเปิดแคมเปญ “กัญชาเสรีรอบสอง-กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด” ในการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมาถึง
เนื่องจากตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ แม้จะให้ “รัฐบาลชุดใหม่” ยืนยันร่างกฎหมายที่ค้างท่อในสารบบนิติบัญญัติ แต่ตามเจตนารมณ์คือ ให้ยืนยันเฉพาะร่างกฎหมายที่รัฐบาลเสนอต่อสภาฯ แล้วเท่านั้น ส่วนร่างกฎหมายที่เสนอโดยภาคประชาชน หรือ ส.ส.ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญครอบคลุมไม่ถึง
สำหรับ “ร่างกฎหมายกัญชาฯ” ว่าตามจริงแล้ว ผู้เสนอคือ “อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและคณะ และ “พรรณศิริ กุลนาถศิริ”ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ และคณะ ถือว่าเป็นร่างกฎหมายของ ส.ส. ดังนั้นหากจะฟื้นร่างกฎหมายฉบับนี้ได้อีกครั้ง ต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ทั้งการเข้าชื่อของ ส.ส. เพื่อเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาฯ รอการพิจารณาวาระแรกตามลำดับ
ทว่า ภาพของความขัดแย้งในสภาฯ จาก “ศึกร่างกฎหมายกัญชา” ที่ผ่านมา และการเล่นเกมชิงคะแนนนิยม ทำให้ร่างกฎหมายกัญชา “ภาคสอง” ยากยิ่งที่จะผ่าน
อีกทั้งเหตุผลสำคัญ ที่จะทำให้การออกกฎหมายเพื่อคุมสุญญากาศกัญชา ส่อแววไม่สำเร็จ คือ กลุ่มผลประโยชน์ด้านกัญชา ที่อิงแอบและอยู่เบื้องหลัง “ผู้แทนราษฎร”
ตามที่ “สมชาย แสวงการ” ส.ว. ฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ข้อมูลไว้ว่า ช่วงสุญญากาศกัญชา พบการเติบโตของธุรกิจร้านกัญชาตามย่านการท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยกฎกระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถควบคุมได้แบบเด็ดขาด และบางร้านพบว่ามีนักการเมือง-ส.ส. เป็นเจ้าของหรือหุ้นส่วน ขณะเดียวกันยังพบว่า กัญชาที่ขายในร้าน นำเข้าจากต่างประเทศ
ดังนั้นหาก “ร่างกฎหมายกัญชา” ภาคสอง จะหวนกลับเข้าสภาฯ แน่นอนว่า ต้องมีการตกลงในระดับที่การันตีว่า "กลุ่มผลประโยชน์เบื้องหลัง” จะไม่มีผลกระทบในแง่ธุรกิจ
ขณะที่การพิจารณาร่างกฎหมายของสภาฯ ตอนนี้ถือว่า “ปิดจ๊อบ” เป็นที่เรียบร้อย แม้จะมีร่างกฎหมายที่บรรจุวาระรอพิจารณา ทั้งร่างกฎหมายที่ กมธ.พิจารณาเร็จแล้ว 10 ฉบับ ร่างกฎหมายที่ ครม.เสนอ 9 ฉบับ ร่างกฎหมายที่ ส.ส.เสนอ 54 ฉบับ ทั้งที่ยังเหลือเวลาที่สภาฯ จะประชุมอีก 1 ครั้ง คือ 23 กุมภาฯ แต่ไม่มีเวลาพอที่จะพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 73 ฉบับได้ทัน
ส่วนสภาฯ นัดสุดท้าย ก่อนปิดสมัยประชุม 23 กุมภาฯ นี้ ต้องให้จับตาให้ดีว่า การประชุมจะ “ล่ม” อีกหรือไม่
เนื่องจากวาระที่ “ส.ส.” ต้องการทำผลงาน ผ่านการตั้งกระทู้ถาม ที่บรรจุกระทู้ถามทั่วไปถึง 16 กระทู้ แต่ล่าสุดนั้น วิปรัฐบาลแจ้งว่ารัฐมนตรีติดภารกิจ 14 กระทู้มาตอบไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกระทู้ถามของฝ่ายค้าน
ดังนั้น โอกาสที่สภาจะ“ล่มทิ้งทวน” อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อ“ฝ่ายค้าน”สบช่อง ใช้โอกาสเล่นงาน“รัฐบาล”ที่ไม่รับผิดชอบงานสภาฯ เป็นฉากส่งท้าย.