โผ“ทหาร-ตำรวจ”ปรอทแตก คิว“ตท.23-24”รับรัฐบาลใหม่
หลังเลือกตั้งนี้ หากเกิดขั้วการเมืองใหม่ รัฐบาลใหม่ นายกฯคนใหม่ ที่ไม่ใช่ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะขึ้นชื่อว่า “โผทหาร-ตำรวจ” มักมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์กันทุกปี
หากวัดท่าทีของ “ผบ.เหล่าทัพ” ในช่วงรัฐบาลใกล้ครบเทอม นับว่าเรตติ้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ไม่มีช่องว่าง รักษาระยะห่าง ให้เป็นที่จับสังเกตเหมือนนายกฯในอดีตพรรคเพื่อไทย ทั้ง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมชาย วงศ์สวัสดิ์ สมัคร สุนทรเวช
ดูได้จากงาน 15 ปีครบรอบวันคล้ายสถาปนากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในแห่งราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เมื่อ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ดูแฮปปี้ เจิดจรัสท่ามกลางวง ผบ.เหล่าทัพ และขุนทหารที่ตบเท้าตั้งแถวต้อนรับยาวเหยียด
ทั้ง “บิ๊กหนุ่ม” พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ (ตท.24) ปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) และที่ขาดไม่ได้ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ระยะหลังขึ้นแท่นน้องรักไปเรียบร้อยแล้ว มีตบบ่า ตบไหล่ให้เห็นกันตลอด
ในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้เลื่อนการประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สนิทชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร.และ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. ออกไปเป็นสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีรายชื่อที่ไม่เรียบร้อย เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ก่อนประกาศยุบสภาภายในเดือนมีนาคม 2566
สำหรับโผนายพลกลางปี ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการขยับปรับย้ายเล็กน้อย ไม่หวือหวาอะไรมากนัก เพื่อตอบแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการปลายปี 2566 นี้ ด้วยการเลื่อนยศ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีประเด็นให้ติดตามกันเลยทีเดียว ยิ่งเป็นในส่วนของ “กองทัพเรือ” ด้วยแล้วต้องจับตาแทบไม่กะพริบ
สำหรับโศกนาฏกรรม เรือหลวงสุโขทัยอับปาง กับกระแสข่าวเด้ง 2 บิ๊กทหารเรือ “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม (ตท.23) ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) “บิ๊กล้อ” พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล (ตท.24) ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 ว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงข่าวปล่อยตอกย้ำคลื่นใต้น้ำในกองทัพเรืออย่างที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตไว้
โดยเฉพาะการสลับเก้าอี้ระหว่าง พล.ร.อ.อะดุง กับ “บิ๊กน้อย” พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง (ตท.24) หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา มาเสียบเก้าอี้ ผบ.กร.แทน
เป็นที่รู้กันว่า พล.ร.อ.วรวุธ เป็นน้องรักของ ผบ.ทร.คนก่อน “บิ๊กเฒ่า” พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ไม่ต่างกับ พล.ร.อ.อะดุง ที่พยายามผลักดันเข้าไลน์ หวังให้เป็นแคนดิแดตชิงเก้าอี้ ผบ.ทร. กับ “บิ๊กโอ๋” พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์(ตท.23) เสนาธิการทหารเรือ “บิ๊กวิน” พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข (ตท.25) ผู้ช่วย ผบ.ทร. ปลายปีนี้
ด้าน พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) ปฏิเสธที่ตอบคำถามถึงกระแสข่าวการโยกย้ายนายทหารที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ภายหลังประชุมผู้บัญชาการทหารและ ผบ.เหล่าทัพ โดยพูดเพียงสั้นๆ ว่า “ให้รอดู”
หากมองข้ามช็อตไปยังการโยกย้ายใหญ่ประมาณสิงหาคม-กันยายน 2566 นี้ ตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ จะเกษียณอายุราชการเกือบยกแผง ทั้ง ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ. รวมถึง ผบ.ตร. เหลือเพียงปลัดกระทรวงกลาโหมเท่านั้น
“ผบ.ทหารสูงสุด” เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ต้องจับตาเพราะ “พล.อ.เฉลิมพล” ยกให้เป็นหน้าที่ของ “ผู้ใหญ่”เป็นผู้ตัดสินใจเลือกคนที่จะมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ หลังเกิดปัญหา“ทหารคอเขียว”รู้สึกไม่พอใจที่คนในกองบัญชาการกองทัพไทยไม่ได้รับการสนับสนุน
แรงกระเพื่อมนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 (ผบ.ฉก.ทม.รอ.904)
ในขณะนั้น ส่ง พล.อ.เฉลิมพล ข้ามมาจากกองทัพบก นั่งเป็นเสนาธิการทหาร และ ผบ.ทหารสูงสุดคอแดง คนแรก ตัดโอกาสลูกหม้อกองบัญชาการกองทัพไทยไปหลายคน ที่เติบโตมาตามสเต็ป แต่ไม่อาจขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุดได้ ทั้ง “บิ๊กโจ้” พล.อ.ณตฐพล บุญงาม อดีตเสนาธิการทหาร เกษียณอายุราชการไปแล้ว และ “บิ๊กไก่” พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขา สมช.คนปัจจุบัน
โดยเฉพาะปรับย้ายปลายปีที่แล้ว ทหารคอแดงอีกคน “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ตท.24) ถูกส่งจากกองทัพบก มานั่งตำแหน่ง รอง ผบ.ทสส. คาดว่าจะเป็นคู่ชิงเก้าอี้ ผบ.ทสส.กับ “บิ๊กจ่อย” พล.อ.ธิติชัย เทียนทอง เสธ.ทหาร (ตท.24)
คนในกองทัพฟันธงกันไปแล้ว 90%“ บิ๊กอ๊อบ” คือ ผบ.ทหารสูงสุด คนต่อไป ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ขรมถึงคุญสมบัติ เพราะ “ผบ.ทหารสูงสุด” ต้องเป็นประธานมูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ในขณะ พล.อ.ทรงวิทย์ เข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารได้ไม่ถึงเดือน ก่อนจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ และไม่ได้จบโรงเรียนนายร้อย จปร.เช่นเดียวกัน
ในส่วน “กองทัพบก” หากไม่มีเหตุแทรกซ้อน “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23 ) รอง ผบ.ทบ.ทหารคอแดงและทหารเสือราชินี น้องรัก พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็น ผบ.ทบ.คนต่อไป รับช่วงต่อจาก พล.อ.ณรงพันธ์ ดูแลงานด้านความมั่นคงปกป้องสถาบันหลักของชาติ
ฟาก “กองทัพอากาศ” ปีนี้มีแคนดิเดตหลายคน ล้วนเป็นเตรียมทหารรุ่น 23 ทั้ง พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา รอง ผบ.ทอ. “บิ๊กจ๋า” พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร ผู้ช่วย ผบ.ทอ. “บิ๊กณะ” พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ
ฝั่ง “ปทุมวัน” เมื่อเร็วๆ นี้ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)ปรากฎตัวในงาน “มวยไทย เฟสติวัล” ที่กองทัพบกเป็นเจ้าภาพ หลังลาสิกขาจากการบวชที่วัดเทพสรธรรมาราม จ.ปทุมธานี ในฐานะผู้แทน ผบ.ตร. เคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อต้น ก.พ.ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่ง ผบ.ตร. คนที่ 14 ต่อจาก “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ตามสูตร “เด่น ต่อ ต่าย โจ๊ก” แต่ดูเหมือนว่าการแบ่งมอบหน้าที่ ความรับผิดชอบตำแหน่ง “รอง ผบ.ตร.”เมื่อปี 2565
ทำให้เกิดข้อสังเกตว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อาจไม่ใช่ ผบ.ตร.คนต่อไป เพราะไม่ได้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง เหมือนกับ 4 ผบ.ตร. ในอดีตและปัจจุบันอย่าง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์
ทุกสายตาจึงโฟกัสมาที่ “บิ๊กรอย” พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ดูแลด้านงานความมั่นคงและกิจการพิเศษ (มค.กศ.) นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 24 และ นรต.รุ่น 40 แทน
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลังเลือกตั้งปีนี้ หากเกิดขั้วการเมืองใหม่ รัฐบาลใหม่ นายกฯคนใหม่ ที่ไม่ใช่ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะขึ้นชื่อว่า “โผทหาร-ตำรวจ” มักมีเรื่องให้เซอร์ไพรส์กันทุกปี