นักกฎหมาย ชี้ "ไตรรงค์” ปราศัยโคราช ไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง-ล้มล้างการปกครอง
"ดร.ณัฎฐ์" ชี้ "ไตรรงค์” ปราศัยโคราช ลักษณะเชิงเปรียบเทียบ ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งและไม่เข้าหลักเกณฑ์ ล้มล้าง-ปฎิปักษ์การปกครอง ยุบ รทสช.
วันที่ 5 มีนาคม 2566 จากกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)กล่าวปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ตอนหนึ่ง ที่ว่า“พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ความกตัญูญูเวที เพราะเราเป็นคนดีไว้ไหมพี่น้อง เราต้องไม่ลืมบุญคุณบรรพบุรุษใช่ไหมพี่น้อง ต้องรักษษประเทศนี้ไว้ให้อยู่ดีที่สุดใช่ไหมครับพี่น้อง ร.9 ตรัสไว้ว่า จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น ผมเองไม่เล่นแล้วการเมือง แต่ผมมาช่วยบิ๊กตู่(พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)เพราะเห็นเขาเป็นคนดี......ฯลฯ
ต่อมานายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.ไต่สวนและวินิจฉัยว่า คำปราศรัยหาเสียงของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรีในวันดังกล่าวได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
ล่าสุด ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ”ดร.ณัฎฐ์” ปรมาจารย์กฎหมายมหาชนและผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญคนดัง เพื่อไขปมปัญหาดังกล่าว โดยได้อธิบายและให้ความรู้กฎหมายแก่ประชาชนว่า ขณะนี้ช่วงโค้งสุดท้ายและจะครบกำหนดอายุสภาและอยู่ในระหว่างระยะเวลาการหาเสียง180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 ก่อนวันครบอายุ จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้งตามความในมาตรา 68(1) แห่งพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561
ต่อมา กกต.ได้ออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 โดยเพิ่มเติม ข้อ 3 ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 ข้อ 6(9)กรณีที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง....และเพิ่มเติมข้อ 18(5) รวมถึงข้อ 18/1 โดยระเบียบดังกล่าวใช้บังคับแก่ผู้ประสงค์จะสมัคร ส.ส.ด้วย ต่อมาแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 บทข้อห้ามเพื่อให้ครอบคลุม ตามพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ 28 มกราคม 2566
หากพิจารณาถึง ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับหารหาเสียงเลือกตั้ง จากฟังเทปปราศรัยข้อความที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี หยิบเอาพระราชดำรัสของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 ที่ว่า “จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น” เป็นการกระตุ้นให้คนไทยที่มาฟังการปราศรัยหรือประชาชนชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีจิตสำนึกในระบอบประชาธิปไตยให้เลือกผู้นำที่ดี ลักษณะเชิงเปรียบเทียบ แม้จะอ้างอิงคำพูดบุคคลที่กล่าว เป็นพระราชดำรัสที่ปรากฎข้อความทั่วไป ถือว่าไม่ได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง แม้ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 จะสวรรคตไปแล้วก็ตาม ไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.
หากพิจารณาตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ถือว่าเป็น กก.บห.พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ถือว่าเป็นเพียงสมาชิกของพรรคเท่านั้น โดยมาตรา92 แห่ง พรป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 จะต้องเป็นการกระทำล้มล้างการปกครองหรือกระทำการเป็นปฎิปักษ์ต่อการปกครอง คำปราศรัยของนายไตรรงค์ฯ ที่ว่าจงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น ยังไม่เข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไข พฤติการณ์การกระทำเข้าข่ายลักษณะล้มล้างการปกครองหรือปฎิปักษ์การปกครอง เพราะจะพิจารณาเพียงคำปราศรัยอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องพิจารณาพฤติการณ์ประกอบการกระทำด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระเบียบการหาเสียง มีข้อยกเว้นในช่วง 180 วันก่อนครบอายุ ถึงก่อนวันเลือกตั้งหรือไม่ “ดร.ณัฎฐ์” มือกฎหมายมหาชนคนดัง กล่าวว่า มีข้อยกเว้น ตามมาตรา 68(2) แห่ง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ศ.พ.ศ.2561 หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา จะทำให้ระยะเวลา 180 วัน สิ้นไปและจะทำให้การกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งสิ้นผลไป
แต่มีประเด็นที่นายสมชัยฯร้อง กกต.ที่ร้องว่า การปราศรัยของนายไตรรงค์ฯเข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไขการยุบพรรคหรือไม่ ซึ่ง กกต.จะต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขการร้องและนายไตรรงค์ฯ เป็น กก.บห.หรือไม่ ส่วนเนื้อหาไม่เข้าข่ายหลักเกณฑ์มาตรา 92 ทั้ง กกต.จะต้องอาศัยระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 มาไต่สวนคำร้องของนายสมชัยฯ หากไม่มีมูล กกต.ย่อมยกคำร้องหรือสั่งยุติการดำเนินคดี ตรงนี้ พูดเป็นกลางๆเพื่อมิให้ประชาชนสับสนข้อเท็จจริง และพูดตามหลักกฎหมาย หลักการรับฟังพยานหลักฐานโดยไม่ได้ชี้นำ ฟันธงว่า โอกาสยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ กรณีคำปราศรัยของนายไตรรงค์ ที่จังหวัดนครราชสีมาที่ผ่านมาแทบไม่มี นักร้องทั้งหลาย จะต้องศึกษาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงให้ดี ไม่ใช้ร้องเอามัน ตั้งข้อสังเกตว่า ส่วนใหญ่นักร้องพวกนี้ เนื้อหาในคำร้อง จะร้องขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริงเพราะกลัวพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องฟ้องกลับ โดยเฉพาะนายสมชัยฯ อดีต กกต.และสังกัดพรรคเสรีรวมไทย เป็นคู่แข่งทางการเมือง