"ชวน" ชี้4ปีสภาฯ "รัฐบาลผสม" คุมเสียงยาก "ฝ่ายค้าน-ส.ว." ล่มประชุม-กม.สะดุด
"ชวน" สะท้อนผลงานสภาผู้แทนราษฎร 4ปี ภาพรวมเป็นไปด้วยดีพอสมควร แต่ยอมรับสภาวะ "รัฐบาลผสม" 19พรรค มากสุดประวัติการณ์ ทำรัฐบาลคอนโทรลเสียงยาก-ฝ่ายค้านเล่นเกมประชุมล่ม ซ้ำเจอส.ว.ผสมโรง ทำกระบวนการณ์นิติบัญญัติสะดุด-กฎหมายค้างเติ่ง
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในรายการมองรัฐสภาผ่านทางสถานีโทรทัศน์รัฐสภา ถึงภาพรวมผลงาน 4 ปีของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ว่า สภาชุดนี้มีการประชุมครบทั้ง8สมัย โดยวันสุดท้ายของ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ และครบวาระ4ปี วันที่23มีนาคม นับจากการเลือกตั้ง 24มีนาคม 2562 ถือว่าเป็นระยะเวลาหนึ่งที่ครบของกระบวนการนิติบัญญัติ แม้อาจจะมีการยุบสภาก่อนวันใดวันหนึ่ง
ทั้งนี้ ภาพรวมตั้งแต่เริ่มสมัยสภาชุดนี้นับแต่มีระบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปจากเดิม จึงทำให้มีลักษณะที่เกิดพรรคการเมืองใหม่มากรวมแล้ว26พรรค ซี่งระบบนี้แม้รัฐธรรมนูญจะกำหนดเงื่อนไข
อย่างไรก็ตามแต่โครงสร้างของบ้านเมืองยังคงยึดหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมกษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ซึ่งระบบนี้ฝ่ายเสียงข้างมากคือผู้ตั้งรัฐบาลทำให้รัฐบาลชุดปัจจุบันจึงประกอบด้วยพรรคการเมืองเกือบ19พรรค เป็นฝ่ายค้าน 7 พรรค ปกติแล้วรัฐบาลผสมจะไม่ค่อยมีการรวมถึง20พรรคเช่นนี้ซึ่งมากสุดเป็นประวัติการณ์
แต่การเริ่มต้นของสภาชุดนี้ก็เป็นไปด้วยดี มีปัญหาเพียงช่วงปลายสมัย แม้ว่าปกติแล้วจะมี ส.ส.เดิมเข้ามาในสภามากกว่า ส.ส.ใหม่ แต่สภาชุดนี้มี ส.ส.ใหม่มากกว่าครึ่งที่ยังไม่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน หรือใหม่ทั้งพรรค แต่เมื่อมองภาพความเป็นจริงก่อนการเลือกตั้งปี 2562 เราไม่มีสภามา5ปี
ดังนั้นการเริ่มของสภาชุดนี้ จึงเริ่มต้นจากการไม่มีสภามา5ปี จึงต้องมาเรียนรู้กันใหม่ มีทั้งบวกและลบในหลายเรื่อง
ในส่วนของการพิจารณากฎหมายของสภาชุดนี้ นายชวน กล่าวว่า ในโครงสร้างระบบประชาธิปไตยมีรัฐบาลต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการบริหาร ดังนั้น ระบบนี้รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีเสียงข้างมาก ซึ่งต่างจากระบบประธานาธิบดี
ดังนั้น การที่รัฐบาลต้องคุมเสียงข้างมากจึงเป็นเรื่องที่เป็นหัวใจของการทำหน้าฝ่ายนิติบัญญัติ หากรัฐบาลต้องการใช้กฎหมายในการบริหาร รัฐบาลต้องนำเสียงข้างมากมาให้ได้ โดยตั้งแต่เรื่มสภาชุดนี้ รัฐบาลก็สามารถทำได้ดี กฎหมายที่รัฐบาลเสนอมาก็สามารถผ่านได้เรียบร้อย หรือเรียกได้ว่าผ่านสภาเกือบทุกฉบับ จะมีเพียงกฎหมายที่เสนอโดยสมาชิกบ้างที่ไม่ได้รับการพิจารณาหรือไม่ผ่านสภาเพราะเป็นกฎหมายที่เสนอร่วมกับรัฐบาล ยกเว้นช่วงหลังในปีสุดท้ายไม่สามารถผ่านการพิจารณาด้วยเงื่อนไของค์ประชุม
ที่ผ่านมาเมื่อรัฐบาลไม่สามารถคุมเสียงข้างมากได้ก็ยังมีเสียงของฝ่ายค้านเป็นองค์ประชุม แต่ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการกดบัตรเป็นองค์ประชุมเพิ่มมากขึ้น ภายหลังเมื่อฝ่ายค้านไม่กดบัตร ทำให้เป็นปัญหาองค์ประชุมและจะเห็นว่าในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลเองก็มีปัญหาความร่วมมือในองค์ประชุมเช่นกัน
หรือแม้แต่การไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายก็ไม่มาเพื่อให้ครบองค์ประชุม ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะสมาชิกต้องกล้าแสดงความเห็นว่าเราไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับใดด้วยการลงมติไม่รับ เพราะการไม่มาร่วมการพิจารณาทำให้กฎหมายค้างการพิจารณาและเกิดปัญหาเวียนซ้ำที่เดิม ทำให้การพิจารณากฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติสะดุดด้วยเรื่องนี้ และไม่น่าเชื่อว่าลามไปถึงวุฒิสภา
โดยเฉพาะการประชุมร่วมรัฐสภา เพราะโดยปกติวุฒิสภาจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้องค์ประชุมครบ แต่ช่วงหลัง 2-3ครั้งที่วุฒิสภาก็ทำแบบผู้แทน อาทิ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับอำนาจของวุฒิสมาชิก และเป็นกฎหมายเพียงกฎหมายเดียวในการประชุมร่วมรัฐสภาที่ไม่ได้พิจารณาตลอดเวลา4ปีและมองว่าถ้าอนาคตเกิดปัญหาเช่นเดียวกันก็จะเกิดปัญหาในการบริหารกิจการของสภาและรัฐบาลได้
"ยอมรับว่าช่วงหลังๆ กฎหมายที่เป็นประโยชน์เสียโอกาสมาก อาทิ กฎหมายขนส่งทางราง กฎหมายเช็คซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลสำหรับการบริหารประเทศโดยรัฐบาลเพิ่งส่งมาภายหลังซึ่งเป็นช่วงที่กำลังมีปัญหาองค์ประชุม ทำให้กฎหมายเหล่านั้นไม่ได้รับการพิจารณาแต่หากไม่มีปัญหาองค์ประชุม เชื่อได้ว่ากฎหมายจะได้รับการพิจารณาทั้งหมดจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย" นายชวน กล่าว