กกต.เตือนทุกพรรคห้ามดึงสถาบันฯหาเสียง เตือน รทสช.คุม "ไตรรงค์" ปมปราศรัย
กกต.ส่งหนังสือถึงทุกพรรคการเมือง แจ้งกฎเหล็กห้ามดึงสถาบันฯมาหาเสียง ขู่ฝ่าฝืนตะเพิดกรรมการบริหารทั้งคณะ เตือน รทสช. คุมเข้ม "ไตรรงค์" หลังปราศรัยโคราชประเด็นสุ่มเสี่ยง
เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2566 มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ลงนามในหนังสือ เรื่องการควบคุมและกำกับดูแลมีให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย แจ้งต่อหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค โดยระบุว่า ด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 22 กำหนดให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ รวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต.
เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาแล้วแต่กรณี คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีหน้าที่ควบคุมและกำกับดูแลมีให้สมาชิกพรรคการเมืองหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการในลักษณะที่อาจทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรืออาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่บุคคลใดซึ่งสมัครเข้ารับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
นายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้พรรคการเมืองปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น จึงขอให้พรรคการเมืองแจ้งให้สมาชิกพรรคการเมืองได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับ รวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต. โดยเฉพาะระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ในส่วนของการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง และเมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองได้รับแจ้งจากนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าสมาชิกพรรคการเมืองกระทำการอันอาจมีลักษณะเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 22 วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติหรือสั่งการให้สมาชิกพรรคการเมืองยุติการกระทำนั้นโดยพลัน และกำหนดมาตรการหรือวิธีการที่จำเป็นเพื่อมิให้สมาชิกพรรคการเมืองผู้ใดกระทำการอันอาจมีลักษณะดังกล่าวอีก แล้วแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีมติ
ทั้งนี้ หากคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 22 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นายทะเบียนพรรคการเมืองจะเสนอให้ กกต. เพื่อพิจารณามีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ คำสั่งดังกล่าวให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองซึ่งพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุดังกล่าวดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองจนกว่าจะพ้นเวลา 20 ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 22 วรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน
นอกจากนี้ เลขาธิการ กกต. ยังได้ลงนามในหนังสือเรื่องการควบคุมและกำกับดูแลมิให้สมาชิกพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย ส่งถึงหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีรายละเอียดว่า ด้วยปรากฎข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2566 นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรค รทสช. ได้ปราศรัย ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยช่วงหนึ่งของการปราศรัยได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง
นายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนายไตรรงค์ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจเป็นการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนระเบียบ กกต. ว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนของการนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งได้ ดังนั้น จึงขอให้ท่านควบคุมและกำกับดูแลมิให้นายไตรรงค์ กระทำการอันอาจเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ข้อบังคับรวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของ กกต.